
การตกรอบแรกในศึกฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติโครเอเชีย อาจดูน่าประหลาดใจ แต่ในอีกมุมถือเป็นเรื่องปกติที่หลายชาติต้องเจอ เมื่อขุมกำลังหน้าใหม่ ขึ้นมาทดแทนตัวเก๋ารุ่นพี่ที่โรยราไป แล้วผลงานโดยรวมของทีมจะดูดรอปลงไปในช่วงเวลาหนึ่ง
ทีมชาติโครเอเชีย ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ ไม่ใช้ม้าที่อยู่ในสายตา เมื่อดูจากขุมกำลังที่เล่นอยู่กับทีมเล็ก ๆ ในลีกชั้นนำ จะมีในรายของ ลูก้า โมดริช ที่ดูเด่นสุด เพราะอยู่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งการบัญชาเกมแดนกลาง จนพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 ถือเป็นเกียรติประวัติสูงสุดจนเป็นที่จับตามอง เพราะแม้แต่ทีมที่มีศักยภาพสูงกว่าอย่าง เบลเยียม อังกฤษ หรือ โปรตุเกส ยังไม่มีวาสนาเท่า ก่อนจะมาสานต่อผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งในฟุตบอลโลก 2022 ที่ในหนนี้ได้อันดับ 3 ฉะนั้นการที่ชาติขนาดเล็กแบบนี้ไปเล่นฟุตบอลโลก แล้วได้เหรียญติดมือกลับมา 2 ครั้งติด ก็ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
การตกรอบแรกในศึกยูโร 2024 ของทีมชาติโครเอเชีย จึงไม่ใช่เรื่องน่าเสียใจ และควรมองด้วยความภาคภูมิใจกับทีมชุดนี้ ส่วนนับจากนี้ ตราหมากรุก จะเจอวัฏจักรเดียวกับ สเปน เยอรมนี และเบลเยียม ที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-4 ปี กับผลงานที่ดรอปลง ก่อนจะดีขึ้นจนกลับมาสู่ความแข็งแกร่ง กระนั้น โครเอเชีย อาจใช้เวลาที่ยาวนานกว่านั้น เมื่อดูจากแววของนักเตะที่ดูไม่มีใครดูแหลมขึ้นมา ซึ่งก็ในแง่ร้ายที่สุด ตราหมากรุกอาจกลายเป็นยักษ์ใหญ่รายต่อไปก็เป็นได้