
ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่ที่ 2 เป็นตาของเจ้าภาพอย่าง ทีมชาติเยอรมนี ที่เป็นแชมป์กลุ่ม A พบกับอันดับ 2 ของกลุ่ม C อย่าง ทีมชาติเดนมาร์ก ซึ่งว่ากันตามตรงคือ อินทรีเหล็กเหนือกว่าหลายขุม ไม่ว่าเสียงเชียร์ หรือศักยภาพนักเตะ

เดนมาร์ก เล่นเกมรับแบบมีระบบ ยืนปิดพื้นที่แดน 2-3 และขยับลงมาอุดหน้าประตูหากบอลมาถึง ส่วนทางฝั่ง เยอรมนี ครองเกมแทบจะฝ่ายเดียว แต่การปิดพื้นที่อย่างมีวินัย ทำให้ต้องใช้บอลแทงยาว หรือการยิงไกลช่วยลุ้นประตู กระทั่งการสั่งหยุดเกมในนาทีที่ 36 เพื่อความปลอดภัยจากฟ้าผ่า ทำให้การโหมบุกต้องหยุดชะงักไป
ครึ่งหลัง เกมเกือบมีจุดเปลี่ยน เมื่อ เดนมาร์ก ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่าย แต่ถูก VAR ริบประตูคืน จากนั้นไม่กี่นาที แอนเดอร์เซ่น ที่เกือบทำประตูได้เมื่อสักครู่ ดันถูกจับแฮนด์บอลและเสียจุดโทษ ซึ่ง เยอรมนี ไม่ปล่อยโอกาสขึ้นนำ 1-0 ให้หลุดมือ นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่เหลือ เดนมาร์ก ต้องดันสูงเพื่อขอแลกเอาประตูคืน กลับกันเมื่อ เยอรมนี ดักได้ พวกเขาวางบอลสวนทันที จนมาได้ประตูปิดกล่อง 2-0 ในนาทีที่ 68
บทสรุปจากเกม เยอรมนี เกือบแย่ เมื่อเจอการตั้งรับอย่างมีวินัย แต่ทุกอย่างง่ายขึ้นทันตา เมื่อได้ประตูนำจากจุดโทษ ก่อนจะใช้เวลาไม่นานในการปิดเกม ส่วนทางฝั่ง เดนมาร์ก ต้องชื่นชมการตั้งรับที่มีวินัย จนเจ้าภาพเล่นลำบาก ซึ่งน่าเสียดายที่ถูก VAR ริบประตู และเสียจุดโทษ เพราะถ้าหากไม่เสียประตูก่อน เชื่อว่าทัพโคนมยังสู้ได้อีกยาว ๆ