
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 33 ลงเตะกันต่อเนื่อง 10 คู่ ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล โดยคู่เปิดหัวเป็นเกมคู่ใหญ่ระหว่าง นิวคาสเซิ่ล เปิดบ้านเจอกับ สเปอร์ส ส่วนทีมเต็งลุ้นแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ได้เล่นในบ้านและเจอของไม่หนัก ยกเว้น อาร์เซน่อล ที่การเผชิญหน้าต่อ แอสตัน วิลล่า ย่อมไม่ใช่งานง่าย ๆ แน่นอน และปิดท้ายด้วย เชลซี เจอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่เพิ่งถูกตัดเพิ่มอีก 2 แต้ม ซึ่งต้องมาดูกันว่าทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะมีอาการแกว่งจากเหตุการณ์นี้หรือไม่ หลังจากผลงานก่อนนี้ไล่เก็บแต้ม จนไม่น่าห่วงต่อการตกชั้น
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบกับ สเปอร์ส (วันเสาร์, 18.30 น.)

นิวคาสเซิ่ล เพิ่งบุกไปเฉือน ฟูแล่ม มา 0-1 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผลงานที่ดี แต่จากสถิติการเล่นในบ้านมักล่อแหลมต่อการเสมอ หรือหากคว้าชัยได้ก็จะหืดจับมาก ๆ ขณะที่ สเปอร์ส ผลงานเริ่มเข้าที่ จนมีเกมที่สะดุดน้อยลง ทำให้การบุกมาเยือนในคราวนี้ ไก่เดือยทองน่าจะไม่แพ้ออกไป
เบรนท์ฟอร์ด พบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 21.00 น.)

3 นัดหลัง เบรนท์ฟอร์ด ไม่แพ้ก็จริง แต่มันออกเสมอทั้งหมด และเกมล่าสุดก็น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่อุตส่าห์แซงนำ 2-3 แต่จบเกม 3-3 เพราะแนวรับไปกั๊กกันจนเสียประตู ส่วน เชฟฟิลด์ ห่างหายจากชัยชนะไปนาน และมักเสียประตูทุกเกม ทำให้มีโอกาสสูงถึง 90% ที่จะต้องตกชั้น แม้เกมล่าสุดจะเปิดบ้านแบ่งแต้มจาก เชลซี ได้ แต่ด้วยระยะห่างจากโซนปลอดภัยถึง 9 แต้ม ยังไงก็ต้องเก็บชัยชนะให้ได้ ขณะที่เกมคู่นี้ เจ้าบ้านน่าจะไล่บด และเอาชนะไปได้แบบไม่ยากเย็น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ ลูตัน ทาวน์ (วันเสาร์, 21.00 น.)

แมนซิตี้ ได้ตัวผู้เล่นที่บาดเจ็บกลับสู่ทีมหลายราย ทำให้ความแข็งแกร่งในขุมกำลัง จะมีมากขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนทางฝั่ง ลูตัน เป็นทีมเก่งเล็กที่ถอยหลังไม่เป็น จนเป็นเหตุให้พวกเขาชวดแต้มสำคัญจากเกมหลายเกมที่ผ่านมา ฉะนั้นเกมนี้ เรือใบสีฟ้าเป็นต่อเยอะ และน่าจะเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอย
น็อตติ้งแฮมป์ ฟอเรสต์ พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน (วันเสาร์, 21.00 น.)

ผลงานในบ้านของ ฟอเรสต์ ถือว่ามีความแข็งแกร่งและแพ้ยาก เพราะหากไม่ใช่ทีมใหญ่จริง ก็กินพวกเขาได้ยาก แล้วในขณะเดียวกัน วูล์ฟ ก็กำลังเป็นทีมเมาหมัด พร้อมแพ้ได้ทุกเกม อาทิ เกมล่าสุดกับเวสต์แฮม ที่พวกเขาออกนำไปก่อนในครึ่งแรก ก่อนจะรับแบบรอโดนในครึ่งหลัง จนได้แพ้สมใจ ฉะนั้นเกมนี้ เจ้าป่ามีโอกาสคว้า 3 แต้ม ค่อนข้างสูง
เบิร์นลีย์ พบกับ ไบร์ทตัน (วันเสาร์, 21.00 น.)

การที่ เบิรน์ลีย์ บุกไปพ่าย เอฟเวอร์ตัน จากความผิดพลาดส่วนบุคคล ถือเป็นความเสียหายที่รุนแรง เพราะมันทำให้พวกเขาดิ้นไม่หลุดจากโซนแดง ส่วน ไบรท์ตัน หากเจอทีมที่เจออ่อนกว่า ไม่ว่าจะในบ้านหรือออกไปเยือน เจ้านกนางนวลมักไม่แพ้ และในเกมนี้ ไบรท์ตันก็จะไม่แพ้เช่นกัน
บอร์นมัธ พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 23.30 น.)

บอร์นมัธ กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง ด้วยการเก็บชัย 3 เกมรวด แต่นัดล่าสุดเสียท่าให้ ลูตัน ในช่วงท้ายเกม ขณะที่ แมนยู ผลงานไม่คงเส้นคงวา ยกเว้นการเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่สู้ได้สูสี จนได้ผลการแข่งขันที่ดีทั้ง 3 ครั้งที่เจอกัน แต่ฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวาแบบนี้ จงอย่าเชื่อใจปีศาจแดง และขอชี้ไปที่เดอเชอร์รี่ ว่าจะไม่แพ้คาบ้านในเกมนี้
ลิเวอร์พูล พบกับ คริสตัล พาเลช (วันอาทิตย์, 20.00 น.)

ผลงานในบ้านของ ลิเวอร์พูล ถือเป็นอะไรที่แน่นอนสำหรับ 3 แต้ม และในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ ยิ่งพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด ส่วนทางฝั่ง พาเลช เพิ่งเจอกับ แมนซิตี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วในสัปดาห์นี้ต้องบุกมาเยือนแอนฟิลด์ แถมสถิติการพบกับทีมใหญ่ในฤดูกาลนี้ก็แพ้เป็นส่วนมาก ฉะนั้น หงส์แดงจะเข้าวินเก็บ 3 แต้ม ค่อนข้างแน่
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบกับ ฟูแล่ม (วันอาทิตย์, 20.00 น.)

ผลงาน 5 นัดหลังของ เวสต์แฮม เก็บชัยชนะได้แค่เกมเดียว คือเกมล่าสุดกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่า เวสต์แฮม มีศึกหนักกลางสัปดาห์ เมื่อต้องออกไปเยือน เลเวอร์คูเซ่น ในโปรแกรมบอลถ้วยยุโรป ซึ่งเมื่อไรที่มีบอลสโมสรยุโรปคั่นกลาง ขุนค้อนมักมีผลงานที่ไม่ดีในลีก เมื่อต้องมาลงแข่งต่อในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ ฟูแล่ม หากเล่นเป็นทีมเยือน จะคาดเดาผลงานได้ง่ายกว่าในบ้าน เพราะการออกมาเยือนมักมือเปล่าเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเกมนัดนี้ เมื่อประมวลจากปัจจัยต่าง ๆ แล้ว ขุนค้อน มีโอกาสหลุดเสมอในบ้านได้ แต่จะไม่เลวร้ายถึงขั้นคาบ้าน
อาร์เซน่อล แอสตัน พบกับ วิลล่า (วันอาทิตย์, 22.30 น.)

อาร์เซน่อล แกร่งทั่วแผ่น และกำลังเดินหน้าเก็บ 3 แต้ม แบบไม่ยั้งหยุด แถมสัปดาห์นี้ใจชื้นขึ้นมาอีกนิด เมื่อพวกเขากลับมาครองบัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้ง ส่วน แอสตัน วิลล่า เริ่มยืนระยะไม่ไหว เมื่อพวกเขาเก็บ 3 แต้ม ได้ไม่ต่อเนื่อง ทำให้สัปดาห์ล่าสุดถูก สเปอร์ส แซงขึ้นอันดับ 4 ขณะที่เกมนี้ สิงห์ผยองไม่รอดวิถีกระสุนไอ้ปืนใหญ่อย่างแน่นอน
เชลซี พบกับ เอฟเวอร์ตัน (คืนวันจันทร์, 02.00 น.)

ผลงานของ เชลซี มันยิ่งกว่ารถไฟเหาะ เพราะเกมก่อนหน้านั้นชนะ แมนยู แบบโคตรสะใจ แต่พอเกมล่าสุดดันทำได้แค่เสมอบ๊วยอย่าง เชฟฟิลด์ ทั้ง ๆ ที่รูปเกมของทัพดาบคู่ แทบจะไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นดี ส่วนทางฝั่ง เอฟเวอร์ตัน การถูกตัดเพิ่มอีก 2 แต้ม ถือว่าเห็นใจนักเตะที่อุตส่าห์ทำงานอย่างหนัก แล้วมาโดนตัดแต้มแบบนี้ ขณะที่เกมนี้เชื่อว่าทีมเยือนจะมาตั้งแล้วรอสวนกลับ พร้อมกับสร้างความอึดอัดให้เจ้าบ้าน จนมีโอกาสสูงที่จะแบ่งแต้มกัน