อุมัร อับดุลเราะห์มาน “จากชีวิตดั่งราชา สู่วันร่วงโรย และฝันอันสูญสลาย”

อุมัร อับดุลเราะห์มาน
อุมัร อับดุลเราะห์มาน

หากใครติดตามฟุตบอลระดับทวีปเอเชีย ในรอบ 10-15 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ อุมัร อับดุลเราะห์มาน น่าจะเคยผ่านหูกันมาบ้าง แต่หากได้เห็นหน้าตา พร้อมกับทรงผมเอฟโฟร์อันเป็นเอกลักษณ์ ก็เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะนี้คือกองกลางตัวฉมังของ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ถูกจับตามมองว่าจะได้ไปค้าแข้งในยุโรป แต่สุดท้ายก็ยังค้าแข้งอยู่ในลีกยูเออีต่อไป พร้อมการนำเสนอชีวิตดั่งราชาของ อุมัร ก่อนที่ในช่วง 3-4 ปีให้หลังมานี้ ข่าวคราวของเจ้าตัวเริ่มหายไปจากสื่อ จนกระทั่งในปัจจุบัน กลายเป็นนักเตะไร้สังกัด และไม่มีค่าตัว

ผู้อพยพชาวเยเมน

ครอบครัวของ อุมัร อับดุลเราะห์มาน เป็นผู้อพยพชาวเยเมน ที่หนีมาตั้งรกรากที่ซาอุดิอาระเบีย และอุมัร ก็ได้ถือกำเนิดที่ดินแดนเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้ ส่วนชีวิตในวัยเด็ก อุมัร และพี่ชายอีก 2 คน ก็ได้ฉายแววความเก่งกาจในการเล่นฟุตบอล จนได้รับข้อเสนอจาก อัล ฮิลาล ที่พร้อมจะดึงไปร่วมอะคาเดมี่ และมอบข้อเสนอให้สัญชาติซาอุดิอาระเบีย แต่ในขณะเดียวกัน อัล ไอน์ จากยูเออี ก็ได้ยื่นข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ ด้วยการดึงไปร่วมอะคาเดมี่ พร้อมกับให้สัญชาติยูเออี ทั้งครอบครัว นั่นจึงทำให้เจ้าตัวตอบตกลง และย้ายไปอยู่ที่ยูออี นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา  

เด็กเทพแห่ง อัล ไอน์

อุมัร ถือเป็นเด็กที่เก่งเกินวัย จนไปเตะตา วินฟรีด เชเฟอร์ ที่ตอนนั้นคุมทีม อัลไอน์ ก่อนจะมาคุมทีมชาติไทยในเวลาต่อมา ด้วยการดึงเจ้าหนูวัย 18 ปี ขึ้นมาเล่นกับนักเตะชุดใหญ่ในปี 2009 ก่อนที่ในปีต่อมา จะได้ขึ้นทีมชุดใหญ่แบบถาวรและยึดตำแหน่งตัวจริง ในขณะเดียวกัน อุมัร ก็ได้รับโอกาสติดชาติยูเออี ชุดเยาวชนไปพร้อม ๆ กัน

โอลิมปิก 2012 เวทีแจ้งเกิด

อุมัร ติดทีมชาติยูเออี ชุดเยาวชน แล้วได้เป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมคว้าเหรียญเงิน ในศึกเอเชียนเกมส์ 2010 ที่ประเทศจีน จนได้รับโอกาสจากทีมชุดใหญ่ ในการลุยศึกเอเชียน คัพ 2011 แม้บทบาทจะเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลัง แต่ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ที่สุด คงหนีไม่พ้นการเล่นฟุตบอลโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อเจ้าตัวได้โชว์ทักษะจนเป็นรู้จักของทีมคู่แข่ง กระทั่งดาวดังระดับโลกอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ที่ตอนนั้นลงรับใช้ทีมชาติอุรุกวัย ยังต้องปรี่เข้ามาขอแลกเสื้อ เพราะประทับใจฟอร์มของ อุมัร หรือในรายของ ไมก้าห์ ริชาร์ด ที่ถึงกับเปิดปากว่าไม่เคยเห็นนักเตะคลาสสูงแบบนี้มาก่อน

ได้รับความสนใจ แต่ดีลจากยุโรปไม่เกิดขึ้น

หลังจากจบโอลิมปิก 2012 ชื่อของ อุมัร ได้เป็นที่รู้จักของหลายทีมในยุโรป และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ได้กลายเป็นทีมแรกที่เรียกไปทดสอบฝีเท้า จนถูกประเมินว่าผ่านและพร้อมเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมทันที แต่ทุกอย่างต้องถูกพับแผน เมื่อการขอใบอนุญาตทำงานไม่ผ่านการอนุมัติ ขณะเดียวกัน ทีมดังที่เป็นข่าวด้วยอย่าง อาร์เซน่อล ,บาเลนเซีย ,เอสปันญ่อล ,บาเซิ่ล และ เบนฟิก้า ก็ไม่สามารถคว้าลายเซ็นของ อุมัร มาได้

ดีลล่มเพราะ อัล ไอน์ ไม่ต้องการปล่อยตัว

การที่ อุมัร จะย้ายไปอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วติดเรื่องใบอนุญาตการทำงาน มันไม่ใช่ปัญหาหลักของเรื่อง หากแต่เป็นเพราะ อัล ไอน์ ไม่ต้องการปล่อยตัวนักเตะออกจากทีมตั้งแรก และทีมอื่นในลีกยูเออี ก็มีแนวคิดคล้าย ๆ กันเช่นนี้ เนื่องจากเจ้าของทีมส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองประจำรัฐต่าง ๆ ในยูเออี ทำให้การสร้างทีมฟุตบอลเป็นหน้าตาของรัฐ และหากทีมมีนักเตะเก่ง ๆ จากในท้องถิ่นด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเป็นความภาคภูมิใจของรัฐ ฉะนั้นการปล่อยนักเตะเก่ง ๆ ออกไป จะเสมือนการลดทอนศักดิ์ศรีของตัวเอง และหากสังเกตให้ดี นักเตะทีมชาติยูเออี เกือบทั้งหมดจะมาจากลีกในประเทศ

ย้ายทีมบ่อย ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน

การเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ อัล ไอน์ และสัญญากำลังจะหมดลง ทำให้เจ้าตัวขอย้ายไปเล่นกับ อัล ฮิลาล ในลีกซาอุดิอาระเบีย แบบยืมตัว เมื่อปี 2018 และเมื่อสัญญายืมตัวสิ้นสุด เจ้าตัวได้เลือกย้ายไปอยู่กับทีมขั้วตรงข้ามอย่าง อัล จาซิร่า ในปี 2019 แต่อาการบาดเจ็บที่เข้ามารบกวนอย่างหนัก ทำให้ อุมัร ขอยกเลิกสัญญา จากนั้นเจ้าตัวได้ย้ายมาอยู่กับ ชาบับ อัลอาลี และ อัล วาเซิ่ล ซึ่งเป็นทีมล่าสุด ที่กำลังรั้งจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ แต่ท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยการยกเลิกสัญญา จนกลายเป็นนักเตะไร้สังกัด และที่สำคัญคือ ทุกดีลที่ได้กล่าวมานี้เป็นการเซ็นสัญญาฟรี ไม่มีค่าตัว         

ความฝันถูกกีดกัน สภาพร่างกายไม่เหมือนเดิม

ในฐานะนักเตะทีมชาติยูเออี อุมัร คือภาพจำในฐานะกองกลาง ที่มีคิลเลอร์พาสสุดแสนจะอันตราย แต่ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ การได้เล่นฟุตบอลในลีกยุโรป คือความฝันของนักเตะทุกคน และในวันที่เจ้าตัวมีความพร้อม กลับไม่ได้รับการเปิดโอกาสที่ดีจาก อัล ไอน์ ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่เลวร้าย ที่ตัวนักเตะไม่สามารถเต็มเติมความฝันให้กับตัวเองได้ และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีโอกาสจะที่จะสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นตำนานออย่างเต็มภาคภูมิ เพราะผู้ที่มีอำนาจเห็นศักดิ์ศรีดีกว่าอนาคตของนักเตะ           

howto

สมัครผ่านไลน์

สมัครบาคาร่า

สมัคร AUTO

สมัครแทงหวย

ทางเข้า ufabet

แทงหวย

ฝากถอนออโต้