
อย่างไรก็ตามยังมีอีกมุมที่เป็นด้านดีพอจะมีให้เห็นกันบ้าง หนึ่งในนั้นคือการเติบโตของดาวดวงใหม่ในแนวรุกที่จุดประกายความหวังในยามที่ทีมต้องพบเจอกับวิกฤต โดยเฉพาะในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านพลิกนรกแซงเอาชนะ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า ไปแบบสุดมันส์ 3-2 เขาทำสองประตูในเกมนี้
เรากำลังพูดถึง “อเลฮานโดร การ์นาโช่” หนุ่มน้อยวัย 19 ปี ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นความหวังใหม่ของทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การ์นาโช่มาจากไหน ?

สำหรับ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ถือว่าเป็นนักเตะลูกครึ่ง คุณพ่อของเขาคือ อเล็กซ์ การ์นาโช่ เป็นชาวสแปนิช ส่วนคุณแม่คือ แพทริเซีย เฟอร์เรย์ร่า เฟอร์นานเดซ เป็นชาวอาร์เจนติน่า ก่อนจะแต่งงานตั้งรกรากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงสเปนอย่างกรุงมาดริด และได้ให้กำเนิดหนุ่มน้อยรายนี้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2004 ทำให้เขาถือสองสัญชาติสามารถเล่นได้ทั้ง อาร์เจนติน่า หรือสเปน
เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของ เกตาเฟ่ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ในปี 2015 ด้วยวัย 11 ปี โดยใช้เวลาอยู่ที่นี่ 5 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนไปเข้าตา เคราร์ด กุซมัน แมวมองของ แมนฯยูไนเต็ด ที่ติดตามดูฟอร์มของเขามาสักระยะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการกระชากแข้งรายนี้เข้าสู่สโมสร เพราะมีคู่แข่งอย่าง เรอัล มาดริด และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่างก็ให้ความสนใจเช่นกัน สุดท้ายแล้ว การ์นาโช่ เลือกที่จะทำตามความฝันย้ายมาค้าแข้งในโรงละครแห่งความฝัน สวมเสื้อ “ปีศาจแดง” ตามรอยไอดอลของเขาอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้
หลังย้ายมาอยู่ในอังกฤษ การ์นาโช่ ใช้เวลาไม่มากนักในการปรับตัว ลงเล่นให้กับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เพียงแค่ไม่กี่เดือน ผลงานโดดเด่นจนเดือนกรกฎาคม ปี 2021 ก็ได้รับการเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรก ทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้ทันที
เส้นทางสู่ทีมชุดใหญ่

ผลงานอันโดดเด่นของเขาในทีมเยาวชน ทำให้ในฤดูกาล 2021-22 การ์นาโช่ มีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด อยู่หลายเกม ก่อนจะได้โอกาสลงประเดิมนัดแรกอย่างเป็นทางการ โดยลงเป็นสำรองในแทน แอนโธนี่ เอลังก้า ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เสมอกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี 1-1 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขาก็เล่นให้กับทีมเยาวชนปิดฉากฤดูกาลพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ พร้อมคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร
ฤดูกาล 2022-23 อเลฮานโดร การ์นาโช่ กลายเป็นสมาชิกในทีมชุดใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด แบบเต็มตัว เขาเปลี่ยนหมายเลขเสื้อจากเบอร์ 75 มาเป็น 49 จากการเข้ามาทำทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก ที่เข้ามาแทน ราล์ฟ รังนิค มีชื่อในทีมระหว่างเก็บตัวพรีซีซั่น แต่ก็มีข่าวที่สู้ดีนักออกมาเกี่ยวกับทัศนคติความเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงมาประชุมทีมสาย
อย่างไรก็ตามแม้จะถูกวิจารณ์มากมายแค่ไหน แต่เขาก็สามารถดึงตัวเองกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นต่อสู้ด้วยความมุ่งมั่น อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของทีม จนได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในเกมยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่พบกับ เชอร์ริฟ ติราสปอล สโมสรจากมอลโดว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2022
นี่คือเกมที่เขาจะจดจำไปอีกนาน เพราะเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น แม้ว่าจะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูหรือแอสซิสต์ แต่ได้รับเลือกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มีส่วนสำคัญพาทีมคว้าชัยด้วยสกอร์ 3-0
หลังจากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง ประตูแรกในทีมชุดใหญ่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2022 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน เขากลายเป็นพระเอกทำประตูชัยพาทีมเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 1-0 พร้อมจารึกสถิติกลายเป็นนักเตะนอกสหราชอาณาจักร ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สามารถยิงประตูให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ในเกมยุโรปด้วยวัยเพียง 18 ปี 125 วัน ทุบสถิติเดิมที่ตำนานอย่าง จอร์ส เบสต์ เคยทำเอาไว้ในวัย 18 ปี 158 วัน เมื่อปี 1964 และยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรประจำเดือนพฤศจิกายนด้วย
เส้นทางในทีมชาติ

อย่างที่ทราบกันว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ นั้นถือสองสัญชาติคือ สเปน และอาร์เจนติน่า ตามเชื้อสายกำเนิดของพ่อและแม่ เจ้าตัวถูกเรียกติดทีมชาติสเปนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ในระหว่างที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในทีมเยาวชนของ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อปี 2021 โดยลงสนามไป 3 เกม
แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวเปลี่ยนไปเล่นให้กับทัพ “ฟ้าขาว” ทีมชาติอาร์เจนติน่า รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ปี 2022 ฟอร์มดีสุด ๆ ลงเล่นไป 4 เกม ยิงไป 4 ประตู และในช่วงเวลาเดียวกันก็มีชื่อในทีมชุดใหญ่เป็น 1 ใน 44 รายชื่อเบี้องต้นในการลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก แต่ก็ไม่ได้ถูกใจงาน รวมไปถึงการมีชื่อใน 33 คนที่อยู่ในข่ายไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์
อย่างไรก็ตาม การ์นาโช่ ไม่ผ่านการตัดตัว ไม่มีรายชื่ออยู่ใน 26 คนเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ก่อนที่ อาร์เจนติน่า จะไปคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3
ปัจจุบันเขาลงเล่นให้กับทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลงประเดิมสนามนัดแรกเป็นเกมอุ่นเครื่องที่พบกับออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2023 ถูกส่งลงเป็นตัวสำรองแทน นิโกลัส กอนซาเลซ ในช่วงครึ่งหลัง และอีก 4 วันต่อมาก็ได้ลงเล่นกับอินโดนิเซีย
ส่วนเกมอย่างเป็นทางการที่เขาได้ลงสนามคือการลงเป็นสำรองในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกที่บุกไปถล่ม โบลิเวีย 3-0 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2023 แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่ 5 นาที แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวสำคัญ หากยังรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแบบนี้คงไม่แคล้วถูกเรียกติดทีมตลอด
ฝากอนาคตไว้กับ“ผีแดง”

ในช่วงท้ายฤดูกาล 2022-23 การ์นาโช่ ในวัย 18 ปี กลายเป็นที่หมายปองของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด สโมสรในบ้านเกิดที่มีข่าวให้ความสนใจอย่างหนัก ในเวลานั้นเขาเหลือสัญญาอยู่กับทีมเพียง 18 เดือน ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ไม่นิ่งดูดาย รีบจับต่อสัญญาฉบับใหม่ทันที โดยตกลงเซ็นกันยาวถึงปี 2028 ตามรายงานระบุว่าเขาได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า แมนฯยูไนเต็ด มองดาวรุ่งรายนี้เป็นเพชรเม็ดงามที่จะก้าวขึ้นไปเป็นกำลังหลักสำคัญในอนาคต ซึ่งเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก หลังได้รับสัญญาฉบับใหม่
“ผมรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเล่นให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ต่อไป ผมยังจำวันแรกที่มาอยู่กับสโมสรแห่งนี้ มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งจริง ๆ ผมมีความฝันอยากที่จะช่วยสโมสรแห่งนี้ประสบความสำเร็จ” การ์นาโช่ กล่าว
ซึ่งในฤดูกาลนี้เป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า เอริค เทน ฮาก เชื่อมั่นในตัวของเขามากแค่ไหน จากตัวเลขจำนวนการลงสนามที่เล่นให้กับทีมไปแล้ว 25 เกมในทุกรายการทำไป 5 ประตู และ 1 แอสซิสต์ กับเด็กหนุ่มที่เพิ่งอายุเพียง 19 ปี เป็นตัวเลือกในตำแหน่งริมเส้นที่ถูกหยิบใช้งานก่อนดาวเตะค่าตัวแพงอย่าง อันโทนี่ หรือแม้แต่รุ่นพี่มาร์คัส แรชฟอร์ดด้วย
ก็ต้องรอดูต่อไปว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะสามารถรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ไปตลอดฤดูกาลหรือไม่ ของแบบนี้ต้องดูกันยาว ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้เลยคือเด็กคนนี้มีของ และพร้อมที่จะก้าวขึ้นไปเป็นสตาร์ดังในอนาคตได้อย่างแน่นอน