
ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 3 สาย F จบลงไปแบบพลิกความคาดหมาย โดยเฉพาะ จอร์เจีย ที่สร้างประวัติศาสตร์เข้ามาเล่นยูโรรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก แต่สามารถเข้ารอบน็อคเอาท์ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม และเอาชนะทีมเต็งอย่าง โปรตุเกส ได้แบบเด็ดขาด ส่วน ตุรกี เข้ารอบในฐานะอันดับ 3 และ เช็ก ตกรอบด้วยการมีเพียง 1 คะแนน
เช็กเกีย 1-2 ตุรกี

เช็ก ต้องการ 3 แต้ม เท่านั้น เพื่อการเข้ารอบ ซึ่งในขณะที่พวกเขากำลังเดินเกมรุก ก็ต้องมาเจอกับจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อมีการเสียบอลกลางสนามแล้วเลือกตัดฟาวล์ ทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 กลายเป็นใบแดง ตั้งแต่นาทีที่ 20 แบบไม่คุ้มเสีย เพราะจังหวะนั้นมีเพื่อนยืนประคองข้างหลังอีก 2 คน นั่นจึงทำให้ความได้เปรียบตกไปอยู่กับ ตุรกี ทันที กระทั่งในครึ่งมายิงประตูนำ 0-1 แต่ความผิดพลาดของผู้รักษาประตูตุรกี ก็ยื่นประตูตีเสมอให้ เช็ก เป็น 1-1 ทำให้ช่วงท้ายเกม เช็ก พยายามบุกแบบขอแลก แต่การเล่น 10 คนที่นานเกินไป ทำให้กำลังขาเริ่มอ่อนแรง สุดท้ายโดน ตุรกี ที่เข้ารอบยิงฝัง 1-2 ในช่วงทดเวลา ส่ง เช็ก กลับบ้านเป็นทีมล่าสุด
จอร์เจีย 2-0 โปรตุเกส

การหมุนเวียนตัวผู้เล่นถึง 8 รายของ โปรตุเกส ส่งผลทันทีตั้งแต่จังหวะแรกของเกม เมื่อ จอร์เจีย ตัดบอลและโต้กลับด้วยประตูนำ 1-0 ซึ่งสกอร์ที่เข้าทางแบบนี้ จอร์เจีย จึงถอยรับหลัง 5 ปล่อยให้ โปรตุเกส เดินเกมรุกจากด้านข้าง จนมีผลต่อการจบสกอร์ที่ไม่อยู่ในระยะอันตราย ส่วนเกมในครึ่งหลัง ก็เป็นแนวรับของโปรตุเกส ที่เล่นไม่ละเอียด จนไปทำฟาวล์เสียจุดโทษให้ จอร์เจีย ยิงทิ้งห่าง 2-0 จากนั้นกลายเป็นเกมตื้อ เมื่อ ฝอยทอง ถอดใจไปเอง ขณะที่ จอร์เจีย ยังคงตั้งรับอย่างมีวินัย จนเมื่อสิ้นเสียงนกหวีด จอร์เจีย สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบน็อคเอาท์ ในการมาเล่นยูโรรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก พร้อมกับผลักให้ทัพฝอยทอง จบรองแชมป์กลุ่ม