“ท็อปโฟร์เปลี่ยนหน้า จ่าฝูงเปลี่ยนมือ” สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 32

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 32 ของฤดูกาล เกมบิ๊กแมตช์ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ระหว่าง แมนยู กับ ลิเวอร์พูล จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 ทำให้ตำแหน่งจ่าฝูงเปลี่ยนไปอยู่ในมือ อาร์เซน่อล ด้วยแต้มที่เท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้-เสีย ของไอ้ปืนใหญ่ดีกว่า ขณะที่โซนท้ายตารางยังต้องลุ้นอีก 1 ทีมที่จะร่วงตกชั้น เมื่อ ลูตัน ที่อยู่ในโซนแดง สามารถคว้าชัยในสัปดาห์นี้ ทำให้แต้มเท่ากับ ฟอเรสต์ ที่อยู่ในโซนปลอดภัย

คริสตัล พาเลช 2-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เกมเริ่มได้ 3 นาที แมนซิตี้ จ่ายบอลเสียกลางทาง ผู้เล่นพาเลชแทงบอลให้ มาเตต้า ยิงบอลชนเสากระเด้งเข้าไปเป็น 1-0 แต่ไม่นานนัก แมนซิตี้ ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 13 จากการเลี้ยงตัดเข้าในและปั่นโค้งของ เดอบรอยน์ ส่วนช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก เจ้าบ้านปิดพื้นที่กรอบเขจโทษได้ดี จนผู้มาเยือนไม่สามารถทำอะไรได้ แต่พอเข้าสู่ 45 นาทีหลัง แมนซิตี้ ยิงนำ 1-2 ตั้งแต่นาทีที่ 46 ก่อนจะนวดไปเรื่อย ๆ จนได้ประตูทิ้งห่าง 1-3 และ 1-4 ขณะที่ พาเลช ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ด้วยการตีตื้นเป็น 2-4 ในนาทีที่ 86 จบเกม เรือใบสีฟ้าขึ้นนำจ่าฝูง ก่อนที่ อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล จะลงเตะที่หลัง      

วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2  เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ครึ่งแรกเป็นเกมของ วูล์ฟ ที่ทำเกมบุกเข้าใส่ จนมาได้ประตูนำ 1-0 จากจุดโทษของ ซาราเบีย ส่วนเกมในครึ่งหลัง เจ้าบ้านเลือกตั้งรับ จนปล่อยให้ เวสต์แฮม บดอย่างหนัก กระทั่งมาได้จุดโทษตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 72 และประตูแซงนำ 1-2 จาก วอร์ด พราวส์ ที่เปิดลูกเตะมุมเข้าประตูไปแบบสุดสวย จบเกม ขุนค้อนกระโดดขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ของตาราง 

เอฟเวอร์ตัน 1-0 เบิร์นลีย์

ครึ่งแรกเป็น เอฟเวอร์ตัน ที่พยายามจะเปิดเกมบุก แต่เจาะไม่เข้า เพราะ เบิรน์ลีย์ ตั้งรับดี และมีเกมโต้กลับที่น่ากลัว กระทั่งเข้าสู่นาทีสุดท้ายของการทดเวลาในครึ่งแรก มูริช เปิดบอลติด คัลเวิร์ต เลวิน ก่อนที่บอลจะลอยข้ามหัวเข้าประตู ส่ง เอฟเวอร์ตัน ขึ้นนำ 1-0 ก่อนเข้าแต่งตัว ส่วนเกมในครึ่งหลัง เมื่อ เบิรน์ลีย์ เหลือผู้เล่น 10 คน รูปเกมก็เข้าทาง เอฟเวอร์ตัน ที่ได้กดใส่ แต่ไม่ได้ประตูที่ 2 จบเกม ทอฟฟี่สีน้ำเงินทำแต้มหนีโซนแดง แต่ไม่วายถูก FA ตัดอีก 2 แต้ม ทำให้ตอนนี้อยู่เหนือโซนแดงเพียงแต้มเดียว    

แอสตัน วิลล่า 3-3 เบรนท์ฟอร์ด

เบรนท์ฟอร์ด เล่นได้ดีในครึ่งแรก จน แอสตัน วิลล่า ทำอะไรไม่ถนัด แต่โอกาสจะแจ้งเพียงครั้งเดียวในนาทีที่ 38 วัตกินส์ เปลี่ยนเป็นประตูนำ 1-0 ให้เจ้าบ้าน ส่วนครึ่งหลังเริ่มเขี่ยบอลไปได้ 30 วินาที วิลล่า มายิงประตูทิ้งห่าง 2-0 จนส่อแววว่า 3 แต้ม จะอยู่ในมือ แต่โมเมนตัมมาพลิก เมื่อ เบรนท์ฟอร์ด ตีตื้นเป็น 2-1 ในนาทีที่ 58 จากความตั้งใจที่จะยิงด้วยเท้าขวา แต่บอลดันโดนขาซ้าย จนกลายเป็นหลอก มาติเนซ ให้ยืนขาตาย จากนั้นอีก 2 นาที ผึ้งน้อยยิงตีเสมอ 2-2 ด้วยการยิงแบบไม่จับของ อึม เบอโม และไม่เพียงเท่านั้น เมื่อพวกเขายิงแซงนำ 2-3 จากการเล่นฟรีคลิกเร็ว ก่อนจะตบมาหน้าประตูให้ วีซา ได้ชาร์ตเข้าไป ซึ่งการถูกรัว 3 เม็ด 10 นาที ทำให้ วิลล่า ต้องปรับแท็กติกขนานใหญ่ ก่อนจะมาได้ประตูตีเสมอ 3-3 ในนาทีที่ 80 ช่วยเซฟ 1 แต้ม ให้สิงห์ผยองไม่แพ้คาบ้าน    

ฟูแล่ม 0-1 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ครึ่งแรก ฟูแล่ม สร้างโอกาสได้มากว่า และมีโอกาสจบสกอร์เยอะกว่า แต่ยังไม่เฉียบคมพอ ส่วน นิวคาสเซิ่ล กว่าจะตั้งตัวจนกล้าเปิดเกมสู้ เวลาก็ล่วงเลยไปถึงช่วงท้ายครึ่งแรก ขณะที่ 45 นาทีหลัง ฟูแล่ม สร้างโอกาสได้ดีราว 15-20 นาที ก่อนที่หลังจากนั้นจะเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่เริ่มดูดีกว่า กระทั่งมาได้ประตูชัย 0-1 จากการสกัดของแนวรับเจ้าถิ่น แล้ว กิมาไรส์ ปรี่เข้ามาซัดแบบเต็มข้อ จบเกม สาลิกาดงเก็บ 3 แต้ม รั้งอันดับที่ 8 ของตาราง

ลูตัน ทาวน์ 2-1 บอร์นมัธ

ครึ่งแรก ลูตัน พยายามขึงบุกใส่ แต่กลายเป็น บอร์นมัธ ที่โต้กลับแล้วได้ลุ้นประตูมากกว่า แต่การจบสกอร์ไม่ค่อยเฉียบคม เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการยิงหลุดกรอบ ส่วนเกมในครึ่งหลัง บอร์นมัธ คลำเป้าเจอแล้วยิงนำ 0-1 ในนาทีที่ 52 นั่นจึงทำให้ ลูตัน ต้องพยายามโหมบุกต่อเพื่อเอาประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งกว่าจะได้ก็รอถึงนาทีที่ 73 จากจังหวะปั๊มบอลกัน แล้วมาเข้าทาง คลาร์ก ได้กดเต็มข้อ และในท้ายเกม ลูตัน ได้สวนขึ้นมา แล้วได้ประตูชัย 2-1 จาก มอร์ริส ทำให้ 3 แต้มในเกมนี้ ช่วยให้ช่างเย็บหมวกได้ลุ้นหนีตายไปต่อ  

ไบรท์ตัน 0-3 อาร์เซน่อล

ช่วงต้นเกม ไบรท์ตัน สู้ได้ดี แต่พอเวลาผ่านไป อาร์เซน่อล เริ่มกดได้อยู่หมัด แล้วมาได้ประตูนำ 0-1 จากจุดโทษ ในนาทีที่ 33 ส่วนเกมในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล กดดันต่อเนื่อง กระทั่งมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 ในนาทีที่ 62 จากการเข้าชาร์ตหน้าประตูของ ไค ฮาแวทช์ ทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นพยายามโหมบุกแบบยอมโดดน กระทั่งนาทีที่ 86 ถูก อาร์เซน่อล โต้กลับ จนโดนยิงตอกฝาโลงเป็น 0-3 จบเกม ไอ้ปืนใหญ่กระโดดนั่งตำแหน่งจ่าฝูง ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะมีโปรแกรมเตะในวันอาทิตย์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-2 ลิเวอร์พูล

ครึ่งแรกเป็นเกมของ ลิเวอร์พูล ที่บดใส่จนได้ประตูนำ 0-1 จาก อิดาซ  ส่วนครึ่งหลัง ควอนซาห์ จ่ายบอลน้ำหนักขาด จนกลายเป็นโอกาสทองของ บรูโน่ ยิงไกลตีเสมอเป็น 1-1 จากนั้น แมนยู ตั้งเกมรับเพื่อคอยดักบอล แล้วการโต้กลับในนาทีที่ 67 ก็มาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากการตะบันยิงสุดสวยของ ไมนู แต่ในช่วงท้ายเกม หงส์แดงมาได้จุดโทษตีเสมอเป็น 2-2 จบเกม ลิเวอร์พูล ได้เพียง 1 แต้ม อดแซง อาร์เซน่อล ที่คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้-เสียดีกว่า  

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2 เชลซี

เชลซี ยังดูตื้อ ๆ แต่มาได้ประตูนำ 0-1 จากลูกเตะมุมที่ ดิโก เข้าไปแปบอลตามน้ำ จากนั้นเป็น เชฟฟิลด์ ที่ค่อย ๆ ตั้งเกมของตัวเอง จนมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 32 จากการหลอกยิงเสาแรกของ โบเกิล ส่วนเกมในครึ่งหลัง เชฟฟิลด์ พยายามกดใส่ผู้มาเยือน กลับกันเมื่อ เชลซี ได้สวนกลับ พวกเขามาได้ประตูนำ 1-2 ในนาทีที่ 66 จนทำให้รูปเกมหลังจากนั้น ส่อแววว่าเจ้าทัพดาบคู่จะพ่ายแพ้อีกตามเคย แต่สุดท้ายพวกมาตามตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 90+3 จากจังหวะชุลมุน แล้วมีการโหม่งชงให้แม็คเบอร์นี่ ได้หลุดเข้าไปยิง จบเกม ทัพดาบคู่ได้มาเพิ่ม 1 คะแนน แต่ยังรั้งบ๊วยอยู่เช่นเคย   

สเปอร์ส 3-1 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

เกมคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ สเปอร์ส ครองบอลบุกใส่ตั้งแต่ต้นเกม แล้วเพียงแค่ 15 นาที ก็มาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อแนวรับทีมเยือนทำเข้าประตูตัวเอง จากนั้นยังคงเป็น สเปอร์ส ที่ดีกว่า และควรได้ประตูทิ้งห่าง แต่พอไม่ได้ และเป็นโอกาสของ ฟอเรสต์ พวกเขามาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการยิงของ คริส วู๊ด จนโมเมนตัมเหวี่ยงมาหา และน่าได้ประตูแซงนำ แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสาอย่างจัง ทำให้ในช่วงพักครึ่ง อังเก้ ต้องปรับจูนสมาธิลูกทีมอย่างหนัก ก่อนจะกลับลงเล่นในครึ่งหลังด้วยการขึงบุกใส่คู่แข่ง จนมาได้ประตูนำ 2-1 ในนาทีที่ 52 และ 3-1 ในนาทีที่ 58 จาก ปอร์โร จบเกม ไก่เดือยทองมีเพิ่ม 3 คะแนน แซงขึ้นมารั้งอันดับ 4 แทน แอสตัน วิลล่า ที่ไม่ชนะในสัปดาห์นี้   

howto

สมัครผ่านไลน์

สมัครบาคาร่า

สมัคร AUTO

สมัครแทงหวย

ทางเข้า ufabet

แทงหวย

ฝากถอนออโต้