การคว้าแชมป์ยูโร 2024 เป็นสมัยที่ 4 ของทีมชาติสเปน ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายไม่น้อย เพราะก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ทัพกระทิงดุไม่ได้อยู่ในโผตัวเต็ง จนเมื่อลงสนามจริง บ่อนรับพนันถูกกฏหมายก็ค่อย ๆ ขยับให้ขึ้นมาเป็นเต็ง 1 ซึ่งอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ สเปน เถลิงแชมป์ บทความนี้จะพาทุกท่านไปวิเคราะห์กัน
ไม่ใช่ตัวเต็ง = ไม่กดดัน
นับตั้งแต่ สเปน หมดยุคทอง ขุมกำลังของทีมชุดปัจจุบันก็ไม่มีตัวประเภทดาวเด่น ที่จะฝากความหวังไว้ได้ ไหนจะผู้จัดการทีมอย่าง เด ลา ฟวนเต้ ที่แทบจะไม่มีใครรู้จัก หากไม่ได้ติดตามลาลีก้าสเปนแบบเจาะลึก นั่นจึงทำให้การเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ของสเปน ไม่ถูกจับตามอง และไม่มีความกดดัน เพราะหากทีมชุดนี้ไปถึงรอบน็อคเอาท์เป็นอย่างน้อย ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว
โค้ชคุ้นเคยกับนักเตะ
เด ลา ฟวนเต้ คุมทีมชาติสเปน ชุดเล็กตั้งแต่ปี 2013 ก่อนจะไต่เต้าการคุมทีม U-19, U-21 จนมาถึงชุดใหญ่ ซึ่งระยะเวลาเกือบ 10 ปี ฟวนเต้ ย่อมรู้จักนักเตะเป็นอย่างดี จนกลายเป็นข้อได้เปรียบว่าจะรีดศักยภาพนักเตะให้ออกมาได้มากที่สุดอย่างไร
แท็กติกมีความยืดหยุ่น
สเปน ในยุคทอง ยึดการเล่นแบบติกี้-ตาก้า ไล่ล่าความสำเร็จ แต่เมื่อดาวเตะรุ่นพี่ร่วงโรยไป บวกกับยุคสมัยของฟุตบอลที่เปลี่ยนผ่าน การเล่นแบบดังกล่าว จึงกลายเป็นการเคาะบอลที่ไม่เกิดประโยชน์ ทำให้ เด ลา ฟวนเต้ เลือกที่จะปรับรูปแบบการเล่น ด้วยการลดจังหวะการจ่ายบอล และเปลี่ยนเป็นการเข้าทำที่รวเร็ว นอกจากนี้ยัง
มีแท็กติกผ่อนหนักผ่อนเบาเกม เพื่อรักษาผลการแข่งขันจนประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด
มีความมั่นใจมากขึ้นทุกเกม ก่อนถึงนัดชิง
สเปน ถูกจับมาอยู่ในสายแข็งตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่รอบน็อคเอาท์ต้องผ่าน เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ที่ล้วนแต่เป็นกระดูกชิ้นโต แต่ สเปน ก็ผ่านมาได้ทั้งหมด ตรงข้ามกับคู่ชิงอย่าง อังกฤษ ที่เจอทีมอ่อนกว่าตัวเองมาตลอดทาง ยกเว้นรอบรองที่เจอทีมศีลเสมอกันอย่าง เนเธอร์แลนด์ นั่นจึงทำให้ สเปน มีความมั่นใจ และแบกรับความกดดันได้ดีกว่า จนสุดท้ายสามารถเอาชนะได้ 2-1
