
แม้ว่า ทีมชาติอังกฤษ ในยุคของ กาเร็ธ เซาธ์เกต จะมีผลงานการคว้าอันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 2018 และรองแชมป์ยูโร 2 ครั้งหลัง แต่สิ่งที่ปฏิเสธไปไม่ได้ คือกระแสวิจารณ์ต่อแท็กติกของโค้ช ที่ออกไปในทางน่าเบื่อ และเป็นฟุตบอลที่ไม่สร้างสรรค์ กระนั้นในมุมกลับกัน การเล่นที่น่าเบื่อแบบนี้อาจเป็นกุญแจที่ เซาธ์เกต มองเห็น และเลือกใช้จนทีมสิงโตคำราม มาได้ไกลขนาดนี้
เล่นมันส์ แล้วตกรอบเร็ว
อังกฤษ มีช่วงเปลี่ยนผ่านโค้ชหลายคน และหลายครั้งมักเล่นแบบทะลุดุดัน แต่ผลที่ตามมาคือ อังกฤษ มักเป็นฝ่ายโดนน็อคจนต้องกลับบ้านก่อนทุกที ฉะนั้นเมื่อ เซาธ์เกต มองเห็นถึงจุดสลบตรงนี้ จึงเลือกเล่นแบบรัดกุมไว้ก่อน เพื่อขอไม่แพ้เป็นอันดับแรก และเน้นยื้อไปเรื่อย ๆ ให้ถึงช่วงจุดโทษที่เป็นจุดแข็ง ยกเว้นว่าสถานการณ์ไม่เข้าข้าง หรือโดนยิงก่อน ก็จะโหมบุกเพื่อให้สกอร์กลับมาเท่ากัน ซึ่งการใช้วิธีแบบนี้ สามารถโค่นทีมต่าง ๆ จนเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ
ผู้เล่นอังกฤษ มีทักษะด้อยกว่าคู่แข่ง

การจับ-จ่ายบอลของ อังกฤษ จะสังเกตเห็นถึงความเนียนกริบ ที่เป็นรอง สเปน และทีมชั้นนำ ฉะนั้นหากเลือกต่อบอลบุกในแดนลึกของคู่แข่ง มันจะกลายเป็นความเสี่ยงที่จะเสียบอล ฉะนั้นการค่อย ๆ ขึ้นบอลแบบช้าแต่ชัวร์ จึงกลายแท็กติกที่ เซาธ์เกต ใช้ นอกจากนี้ การเล่นหลัง 3 ก็เป็นการเพิ่มความรัดกุม เพราะหากเสียบอลกลางทาง หรือถูกกดดันหนัก ๆ การมีกองหลัง 3 คนยืนปักหลักอยู่ จะช่วยให้เกมรับดูแน่นขึ้น