ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รูดม่านปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ก็ได้มีสถิติต่าง ๆ ที่น่าสนใจออกมา และเชื่อว่าหลายเรื่อง อาจะเป็นประเด็นที่ทุกคนคาดไม่ถึง
มี 4 แต้ม แต่ตกรอบแรก

นับตั้งแต่ยูโร 2016 ที่ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ในรอบแบ่งกลุ่ม จะได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างน้อยที่สุดต้องมี 3 แต้ม จึงจะมีโอกาสลุ้นเข้ารอบ และหากมี 4 คะแนน โอกาสเข้ารอบก็แทบจะลอยลำ แต่ ยูเครน กลับกลายเป็นทีมที่ต้องตกรอบแรก เมื่อพวกเขามีประตูได้เสียเป็นรอง สโลวาเกีย จนต้องจบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม
กลุ่มงูกินหาง

เหตุการณ์กลุ่มงูกินหางในยูโร 2004 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ กรีซ ในการเขียนบทเทพนิยายแชมป์ เมื่อทุกทีมมี 3 คะแนนเท่ากัน กระทั่งในยูโร 2024 นี้ ก็ได้เกิดเหตุงูกินหางขึ้นอีกครั้ง เมื่อทุกทีมชนะ 1 เสมอ 1 จนมี 4 คะแนนเท่ากันทั้ง 4 ทีม แต่เมื่อนำผลต่างประตูได้เสียเข้ามาวัด โรมาเนีย เบลเยียม และสโลวาเกีย คือทีมที่ได้เข้ารอบ แต่สุดท้ายทั้ง 3 ทีมเหล่านี้ ก็กระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ทั้งกลุ่ม ชนะนัดเดียว

การเล่นของ อังกฤษ ถูกวิจารณ์ว่าน่าเบื่อไม่สบอารมณ์ แต่เมื่อดูจากภาพรวมของกลุ่ม C ก็จะพบว่ามันน่าเบื่อยิ่งกว่า เมื่อการแข่งขันทั้งหมด 6 นัด มีผลชนะแค่นัดเดียว คือ อังกฤษ เฉือน สโลวีเนีย 1-0 และที่เหลืออีก 5 นัด ผลออกเสมอทั้งหมด
ม้ามืด จอร์เจีย

เป็นชาติที่เพิ่งได้เอกราชเพียง 30 ปี แต่พัฒนาระบบฟุตบอลจนทีมชาติแข็งแกร่ง กระทั่งได้เข้าร่วมยูโร 2024 รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรก แล้วได้ฝากผลงานที่น่าจดจำ คือการโค่น โปรตุเกส 2-0 พร้อมกับเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ดี นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เมื่อ จอร์เจีย ต้องมาพบ สเปน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งความต่างชั้นเป็นผลให้พวกเขาแพ้กระทิงดุไปแบบขาดลอย 4-1
ดาวซัลโว 3 ประตู 6 คน

การยิงได้ 3 ประตู และมีดาวซัลโวร่วม ถือเป็นเรื่องปกติของฟุตบอลยูโร แต่ในครั้งนี้ได้กลายเป็นสถิติใหม่ เมื่อมีดาวซัลโวร่วมมากถึง 6 คน คือ แฮร์รี่ เคน (อังกฤษ), ดานี่ โอลโม่ (สเปน), โกดี้ คักโป (เนเธอร์แลนด์), จามาล มูเซียล่า (เยอรมนี), จอร์จส์ มิเคาตัดเช่ (จอร์เจีย) และ อีวาน ชรานซ์ (สโลวาเกีย)
เข้าชิง 2 ครั้งติด ไม่ได้แชมป์

ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยูโร หากเข้าชิง 2 ครั้ง อย่างน้อยที่สุดจะได้แชมป์มาครอง 1 สมัย แต่ยกเว้น อังกฤษ ไว้ 1 ทีม เมื่อพวกเขาสร้างประวัติศาสตร์เข้าชิง 2 ครั้งติด แต่ต้องรับบทพระรองทั้ง 2 ครั้ง
สเปน แชมป์มากที่สุด 4 สมัย

แม้ว่า สเปน จะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกน้อยกว่า เยอรมนี, อิตาลี และ ฝรั่งเศส แต่เมื่อเป็นฟุตบอลระดับทวีปอย่างยูโร สเปน ถือว่าถูกโฉลกกับถ้วยใบนี้ เมื่อพวกเขาแซงหน้า เยอรมนี ด้วยการเป็นแชมป์มากที่สุด 4 สมัย