“ฟังนะ แล้วบอกต่อไปด้วย พวกมันเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ทุกคน มาจากแองโกล่า สุดยอดไปเลยว่ะ มิน่าล่ะ พวกมันถึงวิ่งได้พล่านนัก พวกมันชอบเอากับกะเทย เหมือนไอ้ห่าเอ็มบัปเป้ แม่ของพวกมันเป็นไนจีเรีย พ่อของพวกมันเป็นแคเมอรูนแต่ในพาสปอร์ต ดันบอกว่าเป็นฝรั่งเศส”
นี่คือเพลงที่นักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ร้องฉลองบนรถบัส หลังจากได้แชมป์โคปาอเมริกาเป็นสมัยที่ 16 และ เอ็นโซ่ ก็ได้ไลฟ์สดลงในไอจีส่วนตัว ทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ จนต้องมีการออกมาขอโทษ แต่อะไรคือเหตุที่ทำให้ 2 ชาตินี้ กลายเป็นคู่แค้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในทวีปเดียวกัน บทความนี้จะพาไปย้อนรอยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
จุดเริ่มต้นจากฟุตบอลโลก 2018
ฝรั่งเศส โค่น อาร์เจนติน่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่ตราไก่จะได้แชมป์ในครั้งนั้น กระทั่งมีเพลงเชียร์ ก็องเต้ ที่พาดพิงไปถึง เมสซี่ ว่าสามารถตามประกบคิงเลโอได้แบบอยู่หมัด ทำให้ทางฝั่งแฟนบอลอาร์เจนติน่า มีการตอบโต้ว่า ถ้าเอาตามสัญชาติที่แท้จริง ก็องเต้ ต้องเล่นให้ มาลี และไม่ควรมีสิทธิ์มาเล่นให้ ฝรั่งเศส
“ยุโรป มีคุณภาพที่ดีกว่า อเมริกาใต้”
ก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น ได้มีสื่อถาม เอ็มบัปเป้ ว่าใครจะได้แชมป์ ซึ่งเจ้าตัวได้ตอบว่า น่าจะเป็นทีมจากยุโรป เพราะมีแมตช์ระดับสูงให้ลงเล่นตลอด แม้ว่าทีมจากอเมริกาใต้จะมีทีมที่ดี แต่ก็มีแค่ บราซิล กับ อาร์เจนติน่า เท่านั้น ทำให้ขาดเกมการแข่งขันในระดับสูง ซึ่งจากสถิตในช่วงหลัง คำพูดของ เอ็มบัปเป้ ถือเป็นข้อเท็จจริง แต่ในครั้งนั้น อาร์เจนติน่า หักคอไก่คว้าแชมป์โลก สมัยที่ 3 พร้อมกับสร้างความสะใจให้แฟนบอลฟ้าขาว ผ่านเพลงเหยียดสุดแสบดังที่กล่าวไปข้างต้น
คนฝรั่งเศสไม่ให้เกียรติ เมสซี่
สถานการณ์ของ เมสซี่ ในช่วงที่อยู่กับ เปเอสเช เจ้าตัวถูกแฟนบอลฝรั่งเศส วิจารณ์ถึงความไม่ทุ่มเท จนกลายเป็นเสียงโห่ไล่ และมันยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อจบฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งทางฝั่งแฟนบอลอาร์เจนติน่า มองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติตำนานของพวกเขา ทั้งที่ฝรั่งเศส บอกตัวเองว่าเป็นชาติที่เจริญแล้ว
ดราม่าต่าง ๆ เหล่านี้ จึงไม่แปลกนักที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกไม่พอใจ มีการล้อเลียนถากถางต่อกัน แต่การแสดงออกผ่านสื่อออนไลน์ย่อมเป็นการกระทำที่เกินขอบเขต และจะเป็นบทเรียนสำคัญต่อนักฟุตบอลอีกหลายคน ที่ต้องมีสติให้มากกว่านี้
