ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 สาย D บทสรุปถือว่าพลิกโผไม่น้อย เมื่อ ออสเตรีย ของ ราฟรังนิค เฉือนชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-3 ทำให้เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม และถีบอัศวินสีส้ม ต้องไปเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ส่วน โปแลนด์ ที่แม้จะตกรอบไปแล้ว ก็ไม่ยอมเป็นทางผ่านให้ ฝรั่งเศส เมื่อพวกเขาตามตีเสมอ 1-1 จนฉุดตราไก่ให้ลงมาจบอันดับ 2 ของกลุ่ม
ฝรั่งเศส 1-1 โปแลนด์
ฝรั่งเศส ไม่ได้เร่งเกมเพื่อเอาประตู ส่วน โปแลนด์ ก็ไม่ได้ปล่อยชิว ทำให้ครึ่งแรกไร้สกอร์และความหวาดเสียว ส่วนเกมในครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ได้จุดโทษขึ้นนำ 1-0 จาก เอ็มบัปเป้ ขณะที่ โปแลนด์ ก็ได้จุดโทษเช่นกัน ซึ่งครั้งแรกยิงติดเซฟ แต่โชคดีที่ผู้รักษาประตูขยับออกจากเส้นก่อน ทำให้ได้ยิงใหม่และตีเสมอเป็น 1-1 จบเกม ตราไก่ เก็บเพิ่มได้ 1 คะแนน เข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม
เนเธอร์แลนด์ 2-3 ออสเตรีย
ด้วยความไม่นิ่งของ เนเธอร์แลนด์ ทำให้ ออสเตรีย ขึงในช่วงต้นเกม แล้วเพียง 5 นาที ก็มาได้ประตูนำ 0-1 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ มาเล็น นั่นจึงทำให้ เนเธอร์แลนด์ ต้องทวงประตูคืน แต่การขึ้นบอลมักเสียกลางทาง เพราะการสอดประสานที่ไม่ทันกัน จนในครึ่งหลังเริ่มมาได้ 2 นาที การตัดบอลและแทงให้ กักโป ยิงปั่นโค้ง ได้กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 พร้อมกับรูปเกมที่ดูดุดันขึ้น แต่ไล่หลังไม่นาน ออสเตรีย เจอช่องระหว่างแบ็คขวากับกองหลัง จึงจัดการแทงไปที่เส้นด้านข้างของกรอบเขตโทษ จนได้ประตู 1-2 นั่นจึงทำให้ เนเธอร์แลนด์ ต้องกลับมาบุก เปลี่ยนตัว และเปลี่ยนมายืนหลัง 3 กระทั่งได้ประตูตีเสมอ 2-2 แต่หลังจากนั้น 5 นาที ออสเตรีย มายิงนำ 2-3 จากการเข้าทำที่คล้าย ๆ กับลูกที่ 2 จบเกม ขุนพลเทอร์ราออสตราลิส กระโดดขึ้นมาคว้าแชมป์กลุ่ม ตรงข้ามกับ อัศวินสีส้ม ที่ต้องหล่นไปเข้ารอบในฐานะอันดับ 3
