
การจบอันดับที่ 6 ของ เชลซี ในฤดูกาลนี้ ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ หากดูจากทั้งฤดูกาลที่เคยลงไปรั้งอันดับที่ 12 ของตาราง ก่อนจะค่อย ๆ ไต่ขึ้นมา ขณะที่บอลถ้วยคาราบาว คัพ เป็นรองแชมป์ และ FA Cup เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ส่วนแนวทางการทำงานของ ท็อดด์ โบห์ลี จะให้เวลาและโอกาสกับกุนซือที่เข้ามาทำงาน อาทิ แกรห์ม พอตเตอร์ ที่หากผลงานไม่ย่ำแย่จริง ๆ ก็จะไม่ปลด
ฉะนั้นเมื่อนำมาเทียบกันแล้ว โปเชติโน ที่เริ่มสร้างทีมจนมีทรง กระทั่งมีผลงานที่ดีตั้งแต่ปีใหม่ ก็น่าจะได้โอกาสทำทีมต่อในฤดูกาลถัดไป แต่สุดท้ายเรื่องราวกลับพลิกล็อก เมื่อ โปเชติโน ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากเข้าไปรับประทานอาหารเย็นกับ ท็อดด์ โบห์ลี
การปลด โปเชติโน อาจจะดูใจร้ายกับผู้จัดการชาวอาร์เจนตินา เพราะผลงานในปี 2024 คือ ตัวแปรสำคัญที่ทำให้กระโดดขึ้นมาจบอันดับที่ 6 แต่ในขณะเดียวกัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปลด โปเชติโน ก็อาจมีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อ คือ ซื้อตัวแพงมาให้ใช้ แต่ผลงานดำดิ่ง จนไม่มีโอกาสได้ลุ้นแชมป์ กับตัวผู้จัดการทีมไม่สามารถรักษาสปิริตของทีมได้ ซึ่งมันอาจมีผลต่อเนื่องในระยะยาว อย่างไรก็ดี การที่ทีมจะพัฒนาและต่อยอดได้ สิ่งสำคัญ คือ เจ้าของและบอร์ดบริหาร ที่ต้องเลิกซื้อตัวตามกระแสก่อน มิเช่นนั้นปัญหาการจัดตัวผู้เล่นและสปิริตทีม จะกลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของสิงห์บูล