จากนักเตะที่พอมีชื่อ ไม่ถึงขั้นโด่งดังเมื่อ 8 เดือนก่อน ในตอนนี้ โคล พาลเมอร์ กลับกลายเป็นดาวซัลโวร่วมพรีเมียร์ลีก เป็นตัวหลักของเชลซี และนักเตะชื่อดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก แต่อย่างไรก็ดี การตัดสินใจย้ายทีมในตอนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเหมือนกลีบกุหลาบ ก่อนที่ในท้ายที่สุดจะก้าวขึ้นมาเป็นโมเมนต์ดี ๆ แม้ผลงานของทีมจะย่ำแย่แค่ไหนก็ตาม
แนวทางที่ไม่ตรงกับ แมนซิตี้
นับตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีม ระบบเยาวชนก็ได้ยกระดับขึ้น จนมีนักเตะในอะคาเดมี่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ และเป็นตัวหลักของทีม อาทิ ฟิล โฟเด้น แต่กว่าที่ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ จะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอเช่นทุกวันนี้ โฟเด้น ต้องทนรอโอกาส และฝึกฝนตัวเองอยู่นานหลายปี กระทั่งถึงรุ่นของ โคล พาลเมอร์ ที่ถูกใช้แนวทางเดียวกัน แต่ พาลเมอร์ มองว่าการพัฒนาที่ดีที่สุด คือการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ และที่สำคัญคือ ต้องการเป็นตัวหลัก ไม่ใช่ตัวเลือก
การตัดสินใจครั้งสำคัญของ พาลเมอร์
เมื่อ พาลเมอร์ มองว่าตัวเองเป็นเพียงตัวเลือก จึงขอย้ายทีมแบบยืมตัวเพื่อไปเก็บประสบการณ์กับทีมอื่น แล้วค่อยกลับมาเป็นตัวหลักที่ แมนซิตี้ แต่แนวทางของ เป็ป มองว่า พาลเมอร์ อยู่ในแผนการทำทีมที่ต้องพร้อมสลับลงมาเล่น ส่วนการเป็นตัวจริงจะต้องมั่นใจว่านักเตะมีความพร้อม 100% กระนั้นหากนักเตะต้องการย้ายทีม ก็จะต้องเป็นการย้ายแบบขายขาดเท่านั้น นั่นจึงทำให้ พาลเมอร์ ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เพราะการอยู่กับ แมนซิตี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะใครจะมายืนอยู่ตรงนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง หากเชื่อมั่นว่าตัวเองเก่งจริง ยังไงทีมใหญ่ก็ต้องมาดึงตัวไปอยู่แล้ว ฉะนั้น พาลเมอร์ จึงตัดสินใจย้ายทีม เพื่อโอกาสการลงสนามเป็นตัวจริง
ค่าตัว 40 ล้านปอนด์ กับนักเตะที่ไม่ใช่ตัวหลัก
พาลเมอร์ ได้ย้ายทีมสมใจ และเป็น เชลซี ที่มาคว้าตัวไปด้วยราคา 40 ล้านปอนด์ ซึ่งราคานี้อาจสูงเกินไปเล็กน้อย เมื่อมองจากประสบการณ์ของนักเตะ อีกทั้ง เชลซี ในยุคเจ้าของคนใหม่อย่าง ท็อดด์ โบห์ลี่ ก็ถูกมองว่าซื้อตัวนักเตะมั่ว โดยไม่ดูความต้องการของทีม นั่นจึงทำให้การย้ายไปอยู่สิงห์บูลของ พาลเมอร์ มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวไม่เป็นท่า ไหนจะช่วงปรีซีซั่นที่ไม่ได้เริ่มต้นพร้อมเพื่อน
เชื่อมั่นในตัวเอง ว่าสามารถทำได้
การย้ายมาอยู่กับ เชลซี ในช่วง 3 เดือนแรก พาลเมอร์ อยู่บนม้านั่งสำรองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ต่างกับนักเตะค่าตัวแพงรายอื่น และผลงานของทีมก็ย่ำแย่ แต่ พาลเมอร์ ก็ค่อย ๆ ปรับตัวกับทีม และได้รับความไว้วางใจจาก โปเช็ตติโน่ ให้ลงเป็นตัวหลัก กระทั่งสามารถยิงประตูแรกให้กับทีม ในเกมที่ชนะ เบิร์นลีย์ 4-1
พาลเมอร์ เจอตำแหน่งที่เหมาะสมกับตัวเอง นั่นคือ กองกลางตัวรุกที่คอยสร้างสรรค์เกม และมีฟอร์มการเล่นที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนี่เป็นความแตกต่างกับเพื่อนร่วมรายอื่น ๆ ที่มักมีแต่ความเร็ว เล่นริมเส้น และรอยิงประตูเป็นส่วนมาก
ดีลที่คุ้มค่าของ เชลซี แม้ว่าฤดูกาลนี้จะยังไม่จบ แต่ก็สามารถสรุปได้ว่า พาลเมอร์ คือดีลที่ดีที่สุดของ เชลซี ในฤดูกาลนี้ และจะเป็นตัวยืนคนสำคัญ สำหรับการซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาเติมเต็มในตำแหน่งอื่น ๆ สุดท้ายนี่อาจจะเป็น โมเมนต์ ดี ๆ สำหรับแฟนบอล แม้ เชลซี ในฤดูกาลนี้จะมีผลงานที่ต่ำกว่าเป้าหมาย และไม่มีแชมป์ติดมือเลยก็ตาม
