ศึกฟุตบอล FA Cup เดินทางถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะลงเตะในวันเสาร์ที่ 16 – อาทิตย์ที่ 17 มีนาคม โดยในรอบนี้จะไม่มีเกมรีเพลย์ และจะใช้การต่อเวลา จนถึงการยิงจุดโทษ เพื่อหา 4 ทีม ไปเล่นรอบรองชนะเลิศที่เวมบลีย์ สำหรับเกมที่น่าติดตาม หนีไม่พ้นแดงเดือดเวอร์ชั่นบอลถ้วย ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเปิดรังล้างแค้น นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่เขี่ยเรือใบสีฟ้า ให้ตกรอบคาราบาว คัพ มาแล้ว
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบกับ โคเวนทรี ซิตี้ (วันเสาร์, 19.15 น.)
เกมคู่นี้ถือเป็นโชคดีของทั้งคู่ ที่จับสลากมาเจอกัน เพราะในบรรดา 6 ทีมที่เหลือ ล้วนแต่หนักกว่าทั้งสิ้น โดยทางฝั่ง วูล์ฟแฮมป์ตัน เจอคู่แข่งที่อ่อนชั้นกว่า ก็ไม่ผิดฟอร์ม เจอทีมระดับเดียวกันก็สามารถเฉือนชนะได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขามาถึงรอบนี้ ส่วนทางฝั่ง โคเวนทรี เป็นทีมจากเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพ ที่มีดวงในการจับสลากแบบสุด ๆ เพราะตั้งแต่รอบ 2 จนถึงรอบ 5 ช้างกระทืบโรงยังไม่เจอทีมจากพรีเมียร์ลีก เลย ฉะนั้นในเกมนี้ฟันธงได้ทันที ว่าหมาป่าจะเฉือนชนะได้ไม่ยาก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (คืนวันเสาร์, 00.30 น.)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอของเบา สลับกับของแข็งอย่าง สเปอร์ส ที่ต้องจัดหนักจัดเต็มใส่กัน แล้วเป็นเรือใบสีฟ้า ที่ผ่านเข้ารอบมาได้ ส่วนทางฝั่ง นิวคาสเซิ่ล รอบที่ผ่านมาเกือบแย่ เมื่อต้องดวลถึงฎีกากับ แบล็คเบิร์น และฟอร์มโดยรวมก็ยังไม่ค่อยดี กระนั้นจากสถิติในช่วงหลัง สาลิกาดงจัดเป็นคู่แข่งที่สร้างความรำคาญต่อ แมนซิตี้ ได้ ทำให้เกมนี้อาจยื้อเกิน 90 นาที แต่สุดท้ายยังมองว่า แมนซิตี้ จะผ่านเข้ารอบต่อไป
เชลซี พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ (วันอาทิตย์, 19.45 น.)
เมื่อ เชลซี ได้เล่นในบ้าน และได้เจอทีมจากลีกที่ต่ำกว่า พวกเขามันชนะแบบหืดจับ กลับกันเมื่อต้องออกไปเยือนที่ วิลล่าพาร์ค สิงห์บูลกลับชนะได้แบบสวยงาม ส่วน เลสเตอร์ ฟอร์มในบอลถ้วย ถือว่าดีคู่มากับเกมลีก แต่ในตอนนี้ จิ้งจอกสยามได้ทำแต้มหลุดมือไป 3 นัด จนอันดับ 2 ทำแต้มมาจี้หลัง ซึ่งน่าจะมีผลต่อการจัดทีม ที่ต้องโฟกัสเกมลีกไว้ก่อน ทำให้เกมนี้มองว่าเจ้าถิ่นจะเฉือนชนะได้ไม่ยาก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ลิเวอร์พูล (วันอาทิตย์, 22.30 น.)
เกมคู่ส่งท้าย เป็นเกมแดงเดือดเวอร์ชั่นบอลถ้วย ซึ่งครั้งล่าสุดต้องย้อนไปในปี 2020 เป็น FA Cup รอบ 4 แล้วเป็น แมนยู ที่เขี่ย ลิเวอร์พูล ตกรอบ ด้วยสกอร์ 3-2 ส่วนในครั้งนี้ แมนยู มีสภาพทีมไม่สมประกอบ จนส่งผลต่อผลงานที่ไม่สู้ดี ตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล ที่ตัวเจ็บเยอะกว่า แต่สามารถรักษาผลงานที่ดีไว้ได้ ทำให้เกมนี้มองว่า ลิเวอร์พูล จะบุกไปเฉือนชนะ แต่อาจจะไม่จบใน 90 นาที ก็เป็นไปได้เหมือนกัน
