
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 26 จะเป็นสัปดาห์ที่โปรแกรมค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะมีเกมนัดตกค้างกลางสัปดาห์ และเชลซี จะได้เปรียบลิเวอร์พูล ก่อนชิงถ้วยคาราบาวคัพในวันอาทิตย์ เพราะยังไม่ต้องลงเตะกับ สเปอร์ส และแมตช์การแข่งขันจะเทข้างไปที่วันเสาร์ เหลือให้วันอาทิตย์ และจันทร์ มีวันละคู่เท่านั้น
ลิเวอร์พูล พบกับ ลูตัน ทาวน์ (คืนวันพุธ, 02.30 น.)
ผลงานของ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะจากทีมเล็กได้ตามเป้าหมาย แต่มีตำหนิที่เสียประตูเกือบทุกนัด อีกทั้งปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม ก็น่าจะมีผลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ส่วนทางฝั่ง ลูตัน การแพ้ 2 เกมติด ยังไม่ทำให้พวกเขาต้องลงไปนั่งโซนแดง แต่การต้องบุกมาเยือนทีมใหญ่ แล้วสถิติเกมเยือนก็ไม่ดี ทำให้เกมนี้มองไม่ยากว่าหงส์แดง จะเก็บ 3 แต้ม แบบสบาย ๆ
คริสตัล พาเลช พบกับ เบิร์นลีย์ (วันเสาร์, 22.00 น.)
พาเลช ได้โค้ชใหม่มีดีกรี ซึ่งน่าจะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ หลังจากเผชิญผลงานอันย่ำแย่มานาน ส่วนทางฝั่ง เบิร์นลีย์ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้ผลงานจะย่ำแย่ เพราะอย่างเกมล่าสุดก็แพ้ต่อ อาร์เซน่อล 0-5 แบบหมดรูป ทำให้เกมนี้มองว่า พาเลช น่าติดตามว่าจะรูปแบบการเล่นจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งเชื่อว่าปราสาทเรือนแก้วจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะ
แอสตัน วิลล่า พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (วันเสาร์, 22.00 น.)
แอสตัน วิลล่า กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งในเกมล่าสุด แต่มันไม่สามารถไว้วางใจอะไรได้ทั้งนั้น เพราะสถิติในช่วงหลังมันฟ้องว่าพวกเขาสามารถแพ้ได้ทุกเมื่อ ส่วนทางฝั่งฟอเรสต์ การเก็บชัยเหนือ เวสต์แฮม ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหนือความคาดหมาย แต่มันน่าเสียดายที่มีโอกาสมากมายแล้วยิงได้แค่ 2 ประตู ฉะนั้นในเกมนี้ สิงห์ผยองน่าจะทำผลงานได้ดี และไม่พลาดง่าย ๆ อีก กับการเก็บอย่างน้อย 1 คะแนน ในเกมนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ฟูแล่ม (วันเสาร์, 22.00 น.)
อันดับในตารางของ แมนยู อาจจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพวกเขายังไม่แพ้ใครลีก นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2024 เป็นต้นมา ส่วนทางฝั่ง ฟูแล่ม อยู่ในช่วงที่คาดเดาอะไรไม่ได้ เพราะอย่างในเกมล่าสุดก็พ่ายต่อ วิลล่า ที่กำลังเป๋มาเสียอย่างนั้น ขณะที่เกมนี้ เจ้าบ้านอาจมีตัวหลักบาดเจ็บอยู่ แต่ไม่น่าจะมีผลต่อการจัดทีม อีกทั้งสถิติการพบกันที่บ้านของปีศาจแดง แมนยูถือว่าข่มมิด ทำให้มองไม่ยากกว่าผีแดงเก็บชัยแน่นอน
ไบรท์ตัน พบกับ เอฟเวอร์ตัน (วันเสาร์, 22.00 น.)
ไบรท์ตัน ทำผลงานได้ตามเป้า กับการบุกไปเก็บ 3 แต้ม ที่ลามอนเลนส์ แต่สกอร์ที่ออกมาอาจดูเซอร์ไพรส์ เมื่อทัพนกนางนวลบุกไปตบ เชฟฟิลด์ ขาดลอย 0-5 ส่วนทางฝั่ง เอฟเวอร์ตัน นัดที่ผ่านมาเล่นในบ้าน แต่เกือบตายเมื่อต้องไล่ตามตีเสมอ พาเลช ในช่วงท้ายเกม ทำให้เกมนี้ดูง่ายขึ้นว่า ไบรท์ตัน ดูเป็นต่อกว่าเยอะ และน่าจะคว้า 3 แต้ม ได้ไม่ยาก
บอร์นมัธ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (คืนวันเสาร์, 00.30 น.)
เกมคู่ดึก บอร์นมัธ ได้กลับมาเล่นในบ้าน หลังจากนัดที่แล้วเกือบเก็บ 3 แต้มได้ แต่ถูกนิวคาสเซิ่ล ตีเสมอเสียก่อน ซึ่งมันอาจส่งผลต่อความมั่นใจในระยะยาว เพราะในเกมนี้ต้องพบกับ แมนซิตี้ ที่กำลังต้องการ 3 แต้ม แบบยิ่งยวด และมีโอกาสน้อยที่เดอะเชอร์รี่จะชิงแต้มมาได้ ฉะนั้นเกมนี้ เรือใบสีฟ้าบุกเฉือนชนะ
อาร์เซน่อล พบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (คืนวันเสาร์, 03.00 น.)
เกมบิ๊กแมตช์ แต่เวลาอาจจะดึกไปสักหน่อยสำหรับเวลาประเทศไทย โดยทางฝั่ง อาร์เซน่อล 2 นัดหลัง ระเบิดตาข่ายไปแล้ว 11 ลูก ทำให้ประตูได้เสียแซง ลิเวอร์พูล ที่ 36 ประตูทันที ส่วนทางด้าน นิวคาสเซิ่ล เล่นในบ้านเกือบตาย เมื่อต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอ บอร์นมัธ ถึง 2 ครั้ง ซึ่งมันสื่อให้เห็นว่าทัพสาลิกาดง ยังไม่ใช่ทีมเดิมจากฤดูกาลก่อน ฉะนั้นเกมนี้ ปืนใหญ่ เก็บ 3 แต้ม และอาจยิงมากกว่า 2 ลูกขึ้นไป
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (วันอาทิตย์, 20.30 น.)
คู่แรกของคืนวันอาทิตย์ วูล์ฟแฮมป์ตัน เพิ่งคว้าชัยชนะ หลังทำแสบใส่ สเปอร์ส เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งในเกมนี้มีโอกาสจะชนะ 2 นัดติด เพราะผู้มาเยือนอย่าง เชฟฟิลด์ ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเขื่อนแตก เมื่อทุกนัดต้องมีเสียประตู ส่วนเกมนี้ฟันธงได้ทันที ว่าเจ้าหมาป่าคว้า 3 แต้ม แบบสวย ๆ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบกับ เบรนท์ฟอร์ด (คืนวันจันทร์, 03.00 น.)
เกมคู่สุดท้ายของสัปดาห์ เวสต์แฮม กลับมาเล่นในบ้าน หลังจากบุกไปพ่ายในสัปดาห์ก่อนแบบไร้ทางสู้ ไม่ต่างกับ เบนท์ฟอร์ด ที่เล่นในถิ่นตัวเอง แล้วพ่ายต่อ ลิเวอร์พูล ถึง 1-4 ฉะนั้นเกมนี้ ความกดดันย่อมสูงทั้ง 2 ฝั่ง แต่ทางฝั่งขุนค้อนดูจะอาการหนักกว่า ทำให้มองว่าเกมนี้ว่าผึ้งน้อยจะมี 1 แต้ม ในการบุกมาเยือน