
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดที่ 24 ในโปรแกรมวันเสาร์ ลงหวดกันยาว ๆ 7 คู่ โดยทีมใหญ่อย่าง แมนซิตี้ และลิเวอร์พูล ต่างเก็บชัยชนะได้ทั้งคู่ รวมถึงทีมที่ตามมาห่าง ๆ อย่าง สเปอร์ส และนิวคาสเซิ่ล ที่ไม่พลาดเก็บ 3 แต้มเช่นกัน แต่ต้องลุ้นแบบใจหายใจคว่ำกว่าจะได้ชัยชนะมาครอง ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันต่อได้ด้านล่างนี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เอฟเวอร์ตัน

คู่ประเดิมสัปดาห์นี้ แมนซิตี้ เปิดรังรับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งดูเหมือนเจ้าถิ่นจะเจองานไม่ยาก แต่ความเหนียวแน่นของทีมเยือน ทำให้ครึ่งแรกจบ 0-0 ส่วน 45 นาทีหลัง แมนซิตี้ ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เดอบรอยน์ ลงสนาม จนทำให้เกมรุกดีขึ้นทันตา กระทั่งปลดล็อกประตูนำ 1-0 ในนาทีที 71 และทำให้สถานการณ์ของเรือใบสีฟ้าดูผ่อนคลายลง ก่อนจะมาบวกประตู 2-0 จาก ฮาแลนด์ คนเดิมที่ยิงเบิ้ล โดย 3 แต้มในเกมนี้ ทำให้พวกเขาแซงนำจ่าฝูงแบบเรียลไทม์ ขณะที่ทอฟฟี่สีน้ำเงิน อยู่ในโซนแดงอันดับที่ 18 ตามเดิม
วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-2 เบรนท์ฟอร์ด

ทั้งคู่เพิ่งพบกันในศึก FA Cup รอบที่ 3 แล้วเป็นทางฝั่งวูล์ฟ ที่คว้าชัยในเกมนี้ แต่สำหรับวันนี้กลายเป็น เบรนท์ฟอร์ด บุกมายัดเยียดความปราชัยถึงถิ่น โดยประตูแรกมาจาก นอร์การ์ด ในนาทีที่ 35 ส่วนครึ่งหลัง เจ้าหมาป่าพยายามบุกแล้วบุกอีก แต่ก็ไม่เป็นผล แล้วมาโดนยิงปิดกล่อง 0-2 ในนาทีที่ 77 โดย 3 แต้มนี้ ถือเป็นการปลดล็อคเกมเยือนของผึ้งน้อย หลังจากทำได้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหมาป่า การพ่ายแพ้เกมนี้ไม่ได้ส่งผลเสียหาย
ฟูแล่ม 3-1 บอร์นมัธ

ผลงานของทั้ง 2 ทีม กำลังอยู่ในช่วงขาลง และต่างฝ่ายต่างต้องการชัยชนะเพื่อเสริมความมั่นใจ โดยทางฝั่ง ฟูแล่ม ยิงนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 6 ก่อนจะมาบวกเพิ่มเป็น 2-0 ในนาทีที่ 36 ทำให้ในครึ่งหลัง บอร์นมัธต้องแก้เกมโดยด่วน แล้วได้ผลทันทีกับประตูตีตื้น 1-2 ในนาทีที่ 50 แต่โมเมนตัมที่กำลังจะมาก็พังทลาย เมื่อเจ้าสัวน้อยจัดการบวกประตู 3-1 แบบทันควัน และจบเกมด้วยสกอร์นี้ ซึ่ง 3 แต้มของฟูแล่ม ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 12 สวนทางกับ บอร์นมัธ ที่ฟอร์มตกลงไปแบบน่าใจหาย กับการถอยมาลงรั้งอันดับที่ 13 ของตาราง
สเปอร์ส 2-1 ไบรท์ตัน

สเปอร์ส เพิ่งทำ 3 แต้มหลุดมือในนัดที่แล้ว ทำให้เกมนี้ต้องการชัยชนะเป็นอย่างยิ่ง แต่พอลงไปเล่นในครึ่งแรก ไบรท์ตัน ทำแสบด้วยการบุกมานำ 0-1 จากจุดโทษในนาทีที่ 17 นั่นจึงทำให้ อังเก้ ต้องแก้เกมอย่างหนักในช่วงพักครึ่ง จนไก่เดือยทองมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากนั้น เจ้าบ้านพยายามเร่งเกมเพื่อแซงนำ แต่ก็เหมือนจะเร่งไม่ค่อยขึ้น กระทั่งการลงสนามของ ซน เฮือง มิน ได้กลายเป็นประโยชน์ต่อทีม เมื่อเจ้าตัวเป็นคนจ่ายให้เพื่อนยิงประตูชัย 2-1 ในนาทีบาป 90+6
ลูตัน ทาวน์ 1-3 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

เกมคู่นี้ถือเป็นนัดสำคัญของทั้ง 2 ทีม เพราะมันสามารถชี้เป็นชี้ตายถึงการอยู่รอด ซึ่งการเป็นเจ้าตัวของลูตัน รูปเกมดูดีกว่า แต่ความเฉียบคมเป็น เชฟฟิลด์ ที่บุกมานำ 0-2 ในครึ่งแรก ก่อนที่ช่วงต้นครึ่งหลัง ช่างเย็บหมวกจะเร่งเกมบุกจนได้ประตูตีตื้น 1-2 แต่แทนที่จะโหมบุกต่อเพื่อเอาประตูเสมอ มันกลายเป็นยิ่งเล่นยิ่งเฉา กระทั่งทัพดาบคู่มายิงย้ำชัย 1-3 โดยชัยชนะนัดสำคัญนี้ยังทำให้ เชฟฟิลด์ อยู่อันดับเดิม แต่ระยะห่างจากพื้นที่ปลอดภัยเหลือแค่ 7 คะแนน ขณะที่ลูตัน คาอยู่ที่อันดับ 17 ด้วยการมีแต้มเหนือโซนตกชั้นคะแนนเดียว
ลิเวอร์พูล 3-1 เบริน์ลีย์

ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ลิเวอร์พูล เหนือกว่าหลายขุม แต่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นในเกมรับหลายตำแหน่ง เพราะมีอาการป่วยและบาดเจ็บ กระนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่อได้ โชต้า ยิงให้ทีมนำ 1-0 แต่ เบรินลีย์ ไม่ยอมง่าย ๆ เมื่อสวนกลับจนยิงตีเสมอ 1-1 ก่อนจบครึ่งแรก จากนั้นในช่วงครึ่งหลัง หงส์แดงมายิงประตูนำ 2-1 อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 52 ทำให้เกมรูปเกมไม่กดดัน กระทั่งช่วงท้ายเกม ดาร์วิน มายิงปิดท้ายให้ทีมเป็น 3-1 พร้อมกับทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนจาก แมนซิตี้
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-3 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ฟอเรสต์ ต้องการชัยชนะเพื่อหนีโซนแดงที่จ่อหลัง ไม่ต่างกับนิวคาสเซิ่ล ที่อยากได้ชัยชนะเพื่อสร้างความมั่นใจ ซึ่งเกมนี้ผ่านไปเพียง 10 นาที นิวคาสเซิ่ล ก็บุกมานำ 0-1 ได้สำเร็จ แต่ ฟอเรสต์ ก็ใช้เวลาไม่นาน กับการไล่ตีเสมอ 1-1 กระทั่งก่อนจบครึ่งแรก สาลิกาดงมายิงนำอีกครั้งเป็น 1-2 แต่เจ้าป่าไม่ยอมตาย ไล่เจ๊า 2-2 ในช่วงทดเวลา 45+6 ส่วนเกมในครึ่งหลัง ทีมเยือนยิงนำอีกหนเป็น 2-3 แต่รอบนี้เจ้าบ้านยิงตีเสมอไม่ได้ ทำให้ 3 แต้มในเกมนี้ ส่งทีมของเอ็ดดี้ ฮาว ขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ขณะที่เจ้าป่า อยู่เหนือโซนตกชั้นแค่ 2 แต้มเท่านั้น