ศึกฟุตบอล FA Cup เดินทางมาถึงรอบ 4 หรือรอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่งมีการจับสลากก่อนที่รอบ 3 จะรีเพลย์กันเสร็จสิ้น โดยในรอบนี้จะเริ่มลงแข่งตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม ไปจนถึงคืนจันทร์ที่ 30 มกราคม และบิ๊กแมตช์ต้องยกให้กับคู่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นทีมใหญ่จากพรีเมียร์ลีกทั้งคู่ ส่วนทีมจากลีกต่ำที่สุดเข้ามาถึงรอบนี้ คือ เมดสโตน จากดิวิชั่น 6 ซึ่งจะต้องจับตาแบบห่าง ๆ ว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรให้แฟนบอลจดจำหรือไม่
บอร์นมัธ พบกับ สวอนซี ซิตี้ (คืนวันพฤหัสบดี เวลา 02.45 น.)
บอร์นมัธ มีผลงานดีในลีก แต่ 2 นัดหลังดันสะดุดแพ้ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่โดน ลิเวอร์พูล บุกมาเผาเครื่องจนเกรียมถึง 0-4 ส่วน FA Cup รอบที่แล้วโดน ควีนปาร์ค นำไปก่อน 2-0 แต่ยังดีที่ฮึดยิงแซง จนกลับมาชนะ 2-3 แบบสุดระทึก ขณะที่ สวอนซี ปีนี้เป็นทีมกลางตารางในลีกเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพ และในเกมบอลถ้วยก็เจอของง่ายอย่าง มอร์แคมป์ จากลีกทู ทำให้เกมนี้มองว่าการเล่นในบ้านของเดอะเชอร์รี่ และได้เจอกับทีมรองบ่อน การคว้าชัยชนะในบ้านน่าจะเป็นเรื่องไม่ยาก
เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ พบกับ โคเวนทรี (คืนวันศุกร์ เวลา 02.45 น.)
เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ กำลังพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในลีกเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพ เมื่อตอนนี้ลงมารั้งรองบ๊วยของตาราง และมีคะแนนตามโซนปลอดภัยถึง 5 แต้ม แต่ในบอลถ้วย FA Cup ทัพนกเค้าแมวโชว์ผลงานแจ่ม กับการถล่ม คาร์ดิฟฟ์ ขาดลอย 4-0 ส่วนทางด้าน โคเวนทรี อยู่ในลีกเดียวกัน แต่อันดับในตารางต่างกัน เมื่อช้างกระทืบโรงอยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งเป็นพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น ทำให้เกมนี้มองว่าทั้ง 2 ทีม จะไม่เอาจริงเท่าไรนัก เพราะทีมหนึ่งกำลังหนีตาย และอีกทีมหนึ่งก็อยากเลื่อนชั้น สุดท้ายเกมนี้อาจจบเจ๊า หรือหากมีผู้ชนะก็อาจจะเป็นทางฝั่งทีมเยือน
เชลซี พบกับ แอสตัน วิลล่า (คืนวันศุกร์ เวลา 02.45 น.)
ผลงานในลีกของ เชลซี เหมือนเป็นทีมที่เร่งเครื่องไม่ขึ้น จนอันดับค้างอยู่กลางตาราง ส่วนในเส้นทาง FA Cup จัดการถล่ม เปรสตัน นอร์ทเอนท์ 4-0 ในช่วงครึ่งหลัง และยังอยู่ในเส้นทางบอลถ้วย คาราบาว คัพ อีกด้วย แต่ในรอบนี้ต้องเจอของหนักอย่าง แอสตัน วิลล่า ที่ผลงานในลีก ทำให้แต้มหล่นตามประสาทีมขนาดกลาง ส่วนในบอลถ้วย บุกไปเฉือน โบโร่ แบบนิ่ม ๆ 0-1 ส่วนเกมนี้ สถิติของ วิลล่า ในการเล่นเป็นทีมเยือนไม่ดี ทำให้มองว่าสิงห์บูล จะเฉือนชนะและเป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบ
บริสตอล ซิตี้ พบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (คืนวันศุกร์ เวลา 02.45 น.)
บริสตอล ซิตี้ เป็นเพียงทีมกลางตารางในเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพ แต่สามารถลมยักษ์อย่าง เวสต์แฮม ด้วยการกลับไปเล่นรีเพลย์ที่บ้านของตัวเอง ซึ่งการจับสลากมาพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อาจจะดูเบากว่าที่เจอขุนค้อนก็ได้ เพราะ ฟอเรสต์ ต้องเล่นถึง 2 นัด กว่าจะผ่าน แบล็คพูล จากลีกวันมาได้ ทำให้เกมนี้น่าสนใจว่าเจ้านกน้อย มีโอกาสจะสร้างปรากฏการณ์ล้มยักษ์อีกหน เพราะได้เล่นในบ้าน และเจ้าป่ามีภารกิจหนีตายรออยู่ จนกึ่งบังคับว่าต้องจัดชุดผสมลงเล่นนัดนี้
สเปอร์ส พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (คืนวันศุกร์ เวลา 03.00 น.)
ผลงานของ สเปอร์ส กำลังกลับเข้าสู่ฝั่ง หลังจากออกไปทะเลไปหลายนัด จนอันดับในตารางรูดยาวไปถึงกลางตาราง ส่วน FA Cup รอบ 3 ต้องเจอกับเพื่อนร่วมลีกอย่าง เบิรน์ลีย์ และในรอบนี้ต้องโคจรมาเจอกับ แมนซิตี้ ซึ่งถือว่าไก่เดือยทอง ค่อนข้างโชคร้ายต่อการจับสลากพอสมควร ส่วน เรือใบสีฟ้า เมื่อนักเตะตัวหลักกลับมา ผลงานก็เริ่มกลับมาโหดเหี้ยมอีกครั้ง และในเส้นทางของถ้วยใบนี้ พวกเขาจัดการถล่ม ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ไปแบบขาดลอย 5-0 ขณะที่เกมบิ๊กแมตช์นี้ ไก่เดือยทองมีสถิติที่ดียามเจอกับเรือใบสีฟ้า แต่การขาดตัวรุกคนสำคัญอย่าง ซน เฮือง มิน ก็ทำให้มองว่าลูกทีมของอังเก้ จะยันเสมอ หรือเฉือนชนะเท่านั้น
อิปสวิช ทาวน์ พบกับ เมดสโตน ยูไนเต็ด (วันเสาร์, เวลา 19.30 น.)
อิปสวิช ทำผลงานมาได้ดีเกือบครึ่งฤดูกาล แต่เมื่อหลุดเสมอ 3 นัดในลีก พวกเขาก็ถูก เซาแธมป์ตัน แซงขึ้นรองจ่าฝูงของเดอะแชมป์เปี้ยนส์ชิพทันที ส่วนบอลถ้วย บุกไปเอาชนะ วิมเบอร์ดัน จากลีกทู แบบไม่ยากเย็น ขณะที่คู่แข่งของม้าขาว คือ เมดสโตน จากดิวิชั่น 6 โซนล่าง ซึ่งในรอบที่ผ่านมา ค่อย ๆ ตบคู่แข่งจากลีกเดียวกัน ก่อนจะไต่เต้าไปตบทีมจาก ดิวิชั่น 5, ลีกทู จนกระทั่งรอบล่าสุดเอาชนะ สตีเนฟ จากลีกวัน ซึ่งถือเป็นการล้มยักษ์ตัวใหญ่พอสมควร กระนั้นการต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือน แล้วศักยภาพค่อนข้างห่างกับเจ้าบ้าน ทำให้มั่นใจว่า อิปสวิช จะเป็นฝ่ายผ่านเข้ารอบ แม้จะใช้ตัวสำรองลงเล่น
