ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่แรก และถือเป็นซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ของรอบนี้ เมื่อตัวเต็งลำดับต้น ๆ อย่าง ทีมชาติสเปน ที่ผ่าน จอร์เจีย มาแบบสบาย ๆ ต้องโคจรมาพบกับ ทีมชาติเยอรมนี ที่เกือบเคี้ยว เดนมาร์ก ไม่ลงในรอบที่แล้ว
เกมการแข่งขันในครึ่งแรก สเปน เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า จน เยอรมนี ต้องเข้าตัดบอลตั้งแต่กลางสนาม ซึ่งก็ช่วยหยุดเกมรุกของ สเปน ให้ไปถึงแดนสุดท้ายได้น้อยลง และการจบสกอร์ล้วนมาจากการยิงไกลนอกกรอบ กระทั่งในครึ่งหลัง สเปน ใช้เวลาเพียง 5 นาที ก็สามารถพังประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ โดยเป็นจ่ายจากด้านข้างให้ตัวแถว 2 วิ่งเข้ามาแปตรงจุดโทษ
การถูกนำเป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ของ เยอรมนี ทำให้ นาเกลส์มันน์ ต้องส่งแนวรุกแบบเต็มอัตรา ซึ่งในช่วงนาทีที่ 50-65 ยังดูทรง ๆ เพราะเกมแดนกลางสู้ไม่ได้ กระทั่งเกมผ่าน 70 นาที เจ้าภาพเริ่มสร้างจังหวะจากการโจมตีเร็วได้เรื่อย ๆ กระทั่งการโยนบอลให้โหม่งตั้ง แล้วยิงเร็ว ก็ได้กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 89 พร้อมกับโมเมนตัมที่เหวี่ยงมาหาอินทรีเหล็ก แบบเต็ม ๆ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายครองบอล และเกือบปล่อยหมัดน็อคใส่อยู่หลายหน อย่างไรก็ดี เมื่อมีโอกาสแล้วทำได้ กระทิงดุจึงลงโทษด้วยลูกโขกขึ้นนำ 2-1 แบบเต็มศีรษะของ เมริโน่ ในนาทีที่ 119
บทสรุปจากเกม ทีมชาติสเปน ออกนำเร็วในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่การผ่อนเกมและเปลี่ยนตัวรุกออก ก็ได้กลายเป็นการปลุกให้เจ้าภาพต่อเกมติด จนยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ ซึ่งโชคดีที่ไม่เสียประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ เพราะถ้าหากโดนแซงนำ ก็เชื่อว่ากระทิงดุจะกลับมายาก ส่วน อินทรีเหล็ก รูปเกมโดยรวมถือเป็นรอง สเปน เล็กน้อย แต่มาเร่งเครื่องจนดูดีกว่าในช่วงท้ายเกมและช่วงต่อเวลา จนมีโอกาสจะแซงนำ แต่ทำไม่ได้และมาโดนหมัดน็อค แบบไม่มีเวลาให้แก้ตัว
