
ฟุตบอลยูโร มีการปรับเพิ่มทีมเข้าร่วมการแข่งขันอยู่เนือง ๆ โดยจำนวน 16 ทีมในรอบสุดท้าย ถือเป็นรูปแบบการแข่งขันที่ถูกยอมรับ และในใช้หลายทวีป กระทั่งยูโร 2016 ได้มีการเปลี่ยนอีกครั้ง ด้วยการเพิ่มทีมในรอบสุดท้ายเป็น 24 ทีม ซึ่งนอกจากจะทำให้ชาติเล็ก ๆ หรือขาจรได้มีโอกาสมากขึ้นแล้ว มันได้กลายเป็นผลดีแก่ ทีมชาติโปรตุเกส ที่สามารถทะลุไปถึงตำแหน่งแชมป์ ได้แบบเหนือความคาดหมาย

ทีมชาติโปรตุเกส ไม่เคยคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาก่อน โดยอย่างดีที่สุด คือ อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 1966, อันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2006 และรองแชมป์ยูโร 2004 ซึ่งเป็นการชวดแชมป์ที่น่าเจ็บใจที่สุด นั่นจึงทำให้ทัพฝอยทอง ไม่ได้ถูกมองเป็นตัวเต็ง แต่ถูกมองเป็นตัวประกอบ ว่าจะเป็น 1 ในทีม ที่สามารถเข้ารอบลึก ๆ ได้ แต่เมื่อ ยูโร 2016 ได้เริ่มต้นขึ้น ทีมชาติโปรตุเกส ทำผลงานได้น่าผิดหวัง เมื่อไม่สามารถเอาชนะใครได้ และผลออกเสมอทั้ง 3 นัด ซึ่งหากเป็นการแข่งขันแบบ 16 ทีม ต้องตกรอบไปแล้ว แต่เพราะการแข่งขันแบบ 24 ทีม ทำให้ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ได้โอกาสไปต่อในรอบน็อคเอาท์

ทีมชาติโปรตุเกส มีผลงานที่กระท่อนกระแท่นในรอบน็อกเอาท์ เมื่อพวกเขาเอาชนะคู่แข่งจากช่วงต่อเวลา และยิงจุดโทษ ซึ่งจะมีแค่รอบรองชนะเลิศที่ชนะ เวลส์ ใน 90 นาที กระทั่งรอบชิงชนะเลิศ การพบกับทีมชาติฝรั่งเศส ที่เป็นเจ้าภาพ และฟอร์มเหมาะสมที่เป็นแชมป์แบบสุด ๆ แต่ฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อทัพตราไก่ไม่สามารพังประตูขึ้นนำได้ แถม โรนัลโด้ ที่เป็นหัวใจสำคัญของทีม ก็มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทีมชาติโปรตุเกส มาปล่อยหมัดน็อคในนาทีที่ 109 แบบช็อกแฟนบอล ซึ่งการคว้าแชมป์ยูโรสมัยแรกนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเทพนิยายที่จะอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล เมื่อทีมที่กำลังจะตกรอบอยู่รอมร่อ สามารถทะลุไปถึงตำแหน่งแชมป์ ด้วยการชนะคู่แข่งใน 90 นาที แค่นัดเดียวเท่านั้น