แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ พร้อมกับการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์เป็นทีมที่ 2 ในเกาะอังกฤษ ต่อจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้เมื่อปี 1999 แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ เป็ป หมดความท้าทาย เมื่อทัพเรือใบสีฟ้าเดินหน้าทำสถิติใหม่ ด้วยการเป็นทีมแรกในเกาะอังกฤษที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 4 ปีซ้อน
แมนซิตี้ ไม่มีนักเตะใหม่ระดับบิ๊กเนมเข้ามา หากเทียบกับซัมเมอร์ปีก่อนที่ได้ ฮาแลนด์ เข้ามายืนเป็นศูนย์หน้า จนเมื่อฤดูกาล 2023/24 เริ่มต้นขึ้น แมนซิตี้ ออกสตาร์ทได้ร้อนแรงตามคาด กระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ 2 ช่วง คือการแพ้ 2 เกมติดต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน และ อาร์เซน่อล กับช่วงเดือนธันวาคม ที่เสมอต่อ ลิเวอร์พูล เชลซี และสเปอร์ จนต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้ อาร์เซน่อล กับ ลิเวอร์พูล ไป อย่างไรก็ดี ผลงานที่ดูดรอปลง ก็มีผลมาจากการขาด เดอบรอย์ ที่บาดเจ็บ และ ฮาแลนด์ ที่ดูขาดความมั่นใจในการยิงประตู
เมื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ แมนซิตี้ ได้ตัวหลักกลับมาครบ จนกลับมาเป็น แมนซิตี้ ทีมเดิมที่ไล่เก็บแต้มแบบรัว ๆ ตรงข้ามกับ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ที่หลุดโค้งในช่วงท้ายฤดูกาล จนมีผลให้เรือใบสีฟ้ากุมชะตาไว้ในมือ และปิดจ็อบแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยซ้อนเป็นทีมแรก ด้วยการเก็บแต้มได้มากถึง 91 คะแนน
ส่วนในรายการบอลถ้วย พวกเขาพ่ายแพ้ เรอัล มาดริด จากการดวลลูกโทษ ซึ่งหากเป็นกฎอเวย์โกล์เดิม เรือใบสีฟ้าจะเป็นฝ่ายเข้าไปป้องกันแชมป์ ส่วนถ้วย FA Cup พ่ายแพ้ต่อเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนยู ในรอบชิง 1-2 ทำให้ฤดูกาล 2023/24 ได้แชมป์ 1 รายการ จากพรีเมียร์ลีก
