แอฟริกันเนชั่นคัพ ทัวร์นาเมนต์แห่งการตัดโอกาส!

แอฟริกันเนชั่นคัพ กำลังลงแข่งขันกันอย่างเมามันส์ เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และเป้าหมายของทุกทีม คงหนีไปพ้นการเข้ารอบลึก ๆ ไปจนถึงการคว้าแชมป์มาครองให้ได้ แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน สโมสรต้นสังกัดก็จะไม่ได้ใช้งานนักเตะ ยังไม่รวมถึงความกังวลว่านักเตะจะเจ็บกลับมาหรือไม่  ซึ่งนี่เป็นเพียงผลกระทบเบื้องต้นต่อสโมสรเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายแง่มุม ที่กำลังทำให้แอฟริกันเนชั่นคัพ เป็นทัวร์นาเมนต์แห่งการตัดโอกาสนักฟุตบอล จากทวีปแอฟริกา

ช่วงการแข่งขัน ทับซ้อนกับฟุตบอลลีกยุโรป

ฟุตบอลแอฟริกันเนชั่นคัพ จะแข่งขันกันในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งมันมันทับซ้อนกับฟุตบอลลีกในยุโรป ที่กำลังลงแข่งขันกันในช่วงกลางฤดูกาล นั่นจึงทำให้สโมสรต้นสังกัด ต้องปล่อยตัวผู้เล่นมาเข้าแคมป์ทีมชาติ และสโมสรจะไม่ได้ใช้งานนักเตะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือหากไปถึงรอบชิงก็จะกินเวลา 1 เดือนเต็ม โดยจุดนี้อาจจะเหมือนกับฟุตบอลเอเชียนคัพ ที่ลงแข่งในช่วงเดือนเดียวกัน แต่ความแตกต่างจะกล่าวถึงในประเด็นต่อไป ส่วนการแข่งของทวีปอื่นอย่าง ยูโร โคปาอเมริกา หรือคอนคาแคฟ ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะแข่งขันกันในช่วงที่ฟุตบอลลีกยุโรปปิดฤดูกาล

แข่งขันทุก 2 ปี

ฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปอย่าง เอเชียนคัพ ยูโร และคอนคาแคฟ จะเว้นช่วงในการจัดทุก ๆ 4 ปี ส่วน โคปาอเมริกา มีการปรับความถี่จากทุก 4 ปี เป็นทุก 2 ปี สลับกันไปมา รวมถึงมีการจัดเนืองในในโอกาสพิเศษ แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ไม่กระทบต่อสโมสร เพราะแข่งขันในช่วงฟุตบอลลีกปิดฤดูกาล กระนั้นสำหรับ แอฟริกันเนชั่นคัพ นอกจากจะลงแข่งในช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับฟุตบอลลีกยุโรปแล้ว ยังมีความถี่ในการจัดมากกว่าทวีปอื่น นั่นจึงทำให้สโมสรต้องปล่อยนักเตะกลางฤดูกลาง แบบปีเว้นปีเลยทีเดียว

มาตรฐานการแข่งขันไม่ดี

อย่างที่เราทราบกันดีว่าประเทศในทวีปแอฟริกา เกินกว่าครึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา ฉะนั้นในเรื่องของการคมนาคมการเดินทาง ไปจนถึงสนามแข่งขัน ย่อมไม่มีคุณภาพ ดังจะเห็นได้จากภาพที่เคยเป็นกระแสในโซเชียล เมื่อ เกอิต้า และ มาเน่ ต้องมายืนรอรถบัสข้างถนน ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครคุ้มกัน หรือภาพของ ซาลาห์ และนักเตะชื่อดังหลายคน ที่ต้องเลี้ยงบอลในสภาพสนามที่ขรุขระ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บหนักได้ง่าย  

ระบบการรักษาที่ไม่มีคุณภาพ

ในประเด็นนี้เพิ่งเกิดขึ้นแบบสด ๆ ร้อน ๆ กับ ซาลาห์  ที่ได้รับบาดเจ็บ จนต้องบินกลับไปรักษาที่ลิเวอร์พูล และบินกลับไปที่ไอวอรีโคสต์ เพื่อรอลงแข่งขันแอฟริกันเนชั่นคัพ รอบน็อคเอ้าท์ ซึ่งมันสื่อให้เห็นว่าขนาดประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างอียิปต์ ยังมีระบบการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน แล้วถ้าเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนา จะมีข้อจำกัดในการรักษาขนาดไหน นอกจากนี้มันยังเป็นการเพิ่มภาระให้สโมสร เพราะนอกจากจะไม่ได้ใช้งานนักเตะแล้ว ยังต้องลงทุนรักษานักเตะเอง เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บหนัก 

จากที่ได้ยกประเด็นต่าง ๆ ที่ได้พูดถึง มันจึงเห็นได้ว่าทัวร์นาเมนต์แอฟริกันเนชั่นคัพ มีจุดอ่อนหลายอย่างจากระบบการแข่งขัน ไปจนถึงศักยภาพของประเทศในทวีป ทำให้ในมุมของสโมสรต้นสังกัดโดยเฉพาะในทวีปยุโรป จะเสียประโยชน์จากการใช้นักเตะของตัวเอง เพราะต้องปล่อยตัวระหว่างฤดูกาลแบบปีเว้นปี แถมยังต้องมานั่งลุ้นว่านักเตะจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ด้วย

มันจึงไม่แปลกนักที่คล็อปป์ เคยออกมาพูดว่าถ้าทัวร์นาเมนต์นี้กลายเป็นผลกระทบต่อทีม ผมย่อมตระหนักในการเลือกนักเตะแอฟริกามาสู่ทีม หรือจะเห็นได้จากทีมชั้นนำของยุโรป ที่ในปัจจุบันมีนักเตะจากแอฟริกาน้อยลงจนแทบนับนิ้วได้ ฉะนั้นมันคงไม่ผิดนัก ที่จะกล่าวว่าแอฟริกันเนชั่นคัพ คือทัวร์นาเมนต์แห่งการตัดโอกาส เพราะนักเตะแอฟริกามีข้อจำกัด และการพิจารณานักเตะจากทวีปอื่นย่อมมีความคุ้มค่าในการใช้งานมากกว่า และไม่ต้องกังวลในเรื่องการปล่อยตัวกลางฤดูกาล

howto

สมัครผ่านไลน์

สมัครบาคาร่า

สมัคร AUTO

สมัครแทงหวย

ทางเข้า ufabet

แทงหวย

ฝากถอนออโต้